วันที่ 4 มี.ค.68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้เรื่องการส่งชาวจีนอุยกูร์กลับจีนเกิด รัฐบาลทั้งไทยและจีนยืนยันความโปร่งใส พร้อมให้มีการตรวจสอบ ในการเดินทางถึงซินเจียงแล้ความเป็นอยู่อย่างไร ซึ่งนายกัณวีร์ สืบแสง พรรคฝ่ายค้าน น่าจะหยุดเรื่องนี้ได้แล้ว เพราะยิ่งออกมาพูด หรือแสดงหลักฐานที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งทำให้เกิดความสับสนต่อสังคม  และประเทศไทย คนไทยก็ไม่ได้ประโยชน์ใดๆเลย โดยเฉพาะเรื่องของจดหมายที่อ้างว่ามาจากชาวอุยกูร์ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ก็ออกมายืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า ปลอม ไม่ได้ออกมาจากเรือนจำกลางคลองเปรม

 

นายจิรายุ กล่าวว่า ในขณะที่นายกัณวีร์ ระบุว่า จดหมายดังกล่าวเขียนถึงนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เหตุใดจึงนำไปเก็บไว้โดยไม่ส่งมอบให้กับรัฐบาล หรือหากมีเจตนาที่ดี ก็สามารถเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียได้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จะได้รับรู้ข้อมูลและนำไปติดตามตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น กลับปล่อยล่วงเลยมาจนถึงเดือนมี.ค.ปีนี้เพื่ออะไร ทั้งนี้สังคมยังเกิดข้อสงสัยว่า ไปเอาออกมาจากห้องกักของ ตม. ได้อย่างไร และไปรับจากใคร หรือใครให้มา มีเจตนาอะไร ซึ่งประเด็นนี้ถ้าหากตอบสังคมได้ ก็จะเกิดความกระจ่างมากยิ่งขึ้น

 

นายจิรายุ กล่าวว่า รัฐบาลย้ำหลายครั้งว่าสถานการณ์ 15 ปีที่แล้วที่มณฑลซินเจียงกับปัจจุบันไม่เหมือนกัน โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก มีการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ และหลายรัฐบาลไทย ก็ดำเนินการประสานงานอยู่ตลอดเวลาก็ไม่เห็นมีประเทศไหนให้การตอบรับตัวชาวจีนอุยกูร์กลุ่มนี้ไปประเทศที่ 3 แต่อย่างใด

 

นายจิารายุ กล่าวว่า วันนี้หน่วยราชการยืนยันว่าปลอม มีแต่นายกัณวีร์คนเดียวที่ยืนยันว่าเป็นจดหมายจริง ตนเห็นว่าควรจะยุติเรื่องที่ออกมาพูดได้แล้ว และรอการที่รัฐบาลจะส่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเดินทางไปติดตามภายในเดือนมี.ค. เพื่อให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างสองประเทศจะดีกว่า ยิ่งนำเสนอมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความสับสน และไม่เห็นเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย เพราะรัฐบาลไทยได้ปฏิบัติตามสนธิสัญญาต่างๆ รวมทั้งเรื่องของสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจนแล้ว