วันที่ 4 มี.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่บช.ปส. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ , พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รองผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส.ทลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าสืบเนื่องจากการแถลงนโยบายของรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี นางสาว แพทองธาร ชินวัตร แถลงต่อรัฐสภาว่า ปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วน ที่นายกรัฐมนตรีให้ความสําคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตัดต้นตอการผลิตและจําหน่าย เน้นการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการสกัดกั้นลําเลียงยาเสพติด ปราบปรามและยึดทรัพย์ผู้ค้ารายสําคัญ และข้อสั่งการของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เน้นการปราบปรามแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ภาคกลางที่จะส่งมายังกรุงเทพมหานคร ประกอบกับนโยบาย ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งกําชับการปราบปรามยาเสพติด อย่างเร่งด่วน ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร/ ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.(ปป) และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา, พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. บช.ปส. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ , พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า รอง ผบช.ปส., ผบก.ปส.1 - 4, ผบก.สกส. และ ผบก.ขส. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุม และขยายผลเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อย ทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย
รวมทั้งการขยายผลไปสู่การจับกุมเครือข่ายที่ยังหลบหนี และยึดทรัพย์ผู้ที่ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือทุกราย จึงได้บูรณาการกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร, นบ.ยส.35 และ ป.ป.ส. โดย พล.ท.กัณห์ สถิตยุทธการ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร, นายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ร่วมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ และจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญของ บช.ปส. โดยมีการมีการสืบสวนทราบว่าจะมีกลุ่มบุคคล
ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ และจะนำมาส่งให้ลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้าง ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยจะใช้รถยนต์ทะเบียน กธ 37xx พะเยา , รถยนต์ทะเบียน บม 16xx พะเยา และ รถยนต์ ทะเบียน บพ 44xx พะเยา ใช้เส้นทางจากพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย ผ่าน จ.พะเยา - จ.แพร่ - จ.สุโขทัย -จ.พิษณุโลก - จ.พิจิตร - จ.นครสวรรค์ ปลายทางพื้นที่ กทม. และปริมณฑล จึงได้เฝ้าติดตามกลุ่มรถยนต์ดังกล่าวเรื่อยมา จนกระทั่งวันที่ 27 ก.พ.68 พบความเคลื่อนไหวของรถยนต์กลุ่มดังกล่าว ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ลักษณะเป็นขบวนมีรถนำ/ตาม ทิ้งระยะประมาณ 2-3 กม. มุ่งหน้า จ.พิจิตร -จ.นครสวรรค์
โดยได้จัดชุดสะกดรอยติดตาม และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจพยุหะคีรี ให้หยุดรถยนต์ทั้งสามคัน รถยนต์คันที่ 1 ทะเบียน บพ 44xx พะเยา เลยด่านตรวจไป รถยนต์คันที่ 2 ทะเบียน บม 16xx พะเยา สามารถหยุดไว้ได้ที่ด่านตรวจ ส่วนรถยนต์คันที่ 3 ทะเบียน กธ 37xx พะเยา จอดริมถนนก่อนถึงด่านตรวจพยุหะคีรี
เจ้าพนักงานตำรวจจึงแสดงตัวเพื่อเข้าตรวจค้น แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับขี่รถยนต์หลบหนี ทิศทางมุ่งหน้า อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยสามารถหยุดรถคันดังกล่าวบริเวณริมถนนพหลโยธิน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ผลตรวจค้นพบ ยาบ้า 7,990,000 เม็ด ในห้องผู้โดยสาร ส่วนผู้ขับขี่เป็นชายวัยรุ่น ได้อาศัยความมืดวิ่งหลบหนีขณะเข้าจับกุม ต่อมาเวลาประมาณ 05.40 น. ชุดที่ติดตามรถยนต์คันที่ 1 ทะเบียน บพ 44xx พะเยา สามารถจับกุมได้ที่ โรงแรมฟ้าใส รีสอร์ต ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้านพล.ต.อ.ประจวบ กล่าวว่าสำหรับการปราบปรามยาเสพติดของ บช.ปส. ตั้งแต่ 1 ต.ค.67 - ปัจจุบัน สามารถจับกุมขบวนการ ค้ายาเสพติดทุกคดีได้ 524 คดี ผู้ต้องหา 520 คน ของกลางยาเสพติด คือ ยาบ้า 134,797,295 เม็ด, ไอซ์ 11,313 กก.เฮโรอีน 107 กก. คีตามึน 509 กก. และยาอี 575 เม็ด ยืดอายัดทรัพย์ผู้ค้ายาเสพติด 1,384,689,753 บาท



