ราชบุรี อาชีพใหม่เลี้ยงหนอนเพื่ออาหารสัตว์
หนุ่มจบ ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ บ้านอยู่ที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เลี้ยงหนอนกินผักผลไม้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม 15 - 20 วัน ส่งขายฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ขายได้ทั้งตัวหนอน ปุ๋ย และต้นกล้าพันธุ์ไม้แบบครบวงจร ไข่ตัวอ่อนมีราคาแพง กก.ละเกือบ 2 หมื่นบาท ยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้แก่ผู้สนใจ
( 3 มี.ค. 68 ) พาไปดูการจัดการขยะแบบครบวงจรที่บ้านจอมพล ของนายทศพร ศรีเรือง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 / 3 หมู่ 11 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หลังจากจบการศึกษาปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมโยธาและเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ด้วยใจอยากศึกษาทดลองสิ่งแปลกใหม่ จึงนำพืชผัก ผลไม้ เศษอาหารมาวางกองใส่ลองซีเมนต์นำภาชนะมาปิดไว้เล็กน้อย โดยจะใช้เวลาการหมักประมาณ 7 วัน เพื่อให้เกิดจุลินทรีย์ให้แมลงวันลาย ซึ่งเป็นแมลงวันที่มีในท้องถิ่น มาวางไข่ในภาชนะที่เตรียมไว้ เพื่อให้ได้พ่อแม่พันธุ์แมลงวันลายไปวางไข่เป็นตัวหนอน นำไปจำหน่ายสร้างรายได้ เนื่องจากมีธาตุอาหารโปรตีนสูง ให้สีสันสวยงาม ทำให้เป็นที่นิยมกับร้านจำหน่ายปลาสวยงาม และสัตว์เลี้ยงบางชนิด โดยมีการจัดการขยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งแมลงวันลายไม่เป็นการรบกวนด้วย
นายทศพร ศรีเมือง กล่าวว่า ได้รับการส่งเสริมจากศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ต.คลอง 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จากนั้นเริ่มศึกษาจากยูทูป และเฟซบุ๊ก ต่อมาทางสิ่งแวดล้อมได้ส่งตัวอย่างหนอนมาให้ฝึกเพาะเลี้ยง ส่วนแรกต้องการหนอนมาเป็นอาหารสัตว์ ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำมาได้ระยะหนึ่ง ก็ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ซีพีแอ็กซ์ตร้า จำกัด ส่งเศษอาหารจากห้างฯ เข้ามาเพื่อช่วยในการเพิ่มโปรตีนให้กับหนอน ทำให้หนอนมีความแข็งแรง ตัวใหญ่ จะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ พันธุ์แรกดักจับจากธรรมชาติเป็นสิ่งแวดล้อมจากการเลี้ยงอยู่ อีกส่วนได้รับการสนับสนุนมาจากศูนย์วิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นสายพันธุ์ของกรมวิชาการ ช่วยให้มีตัวเปรียบเทียบได้ และได้นำมาผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้มีความแข็งแรงทนต่อสภาพแวดล้อมในจุดที่อยู่ ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ได้เข้ามาสนับสนุนให้ความรู้เรื่องของ การทำแพคเกจจิ้ง บรรจุภัณฑ์ และการจัดหาพื้นที่ออกบูธ ต่อยอดขยายให้ความรู้ต่อชุมชน
วิธีดักจับคือใช้การหมักขยะจุลินทรีย์ในบ่อปูนซีเมนต์ นำผลไม้มาใส่ จะมีตัวแมลงวันลายมาวางไข่ ปิดฝาไม่ต้องมิดชิดมาก พยายามจะไม่ใส่เศษอาหารมากเพราะจะมีแมลงวันบ้านบินเข้ามาวางไข่ด้วย จะทำให้คัดแยกตัวดักแด้ค่อนข้างยากขึ้น เมื่อได้ดักแด้ที่อยู่ในธรรมชาติแล้ว จะนำมาเข้ากล่องเพื่อรอให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ในการบิน ผสมพันธุ์ในจุดที่กำหนดไว้ ก็จะได้ไข่จากหนอนแมลงวันที่บริสุทธิ์ ไม่เจือปนกับแมลงวันบ้าน เมื่อได้แล้วจะนำไปเพาะในภาชนะพลาสติกเลี้ยงให้ได้อายุประมาณ 3 วัน จะเห็นตัวหนอนขนาดเท่าเม็ดข้าวสาร จึงนำมาปล่อยในภาชนะเลี้ยงกินเศษอาหารจากผลไม้ ให้ได้อายุประมาณ 15 - 20 วัน ก็จะได้ตัวหนอนเป็นอาหารสัตว์ พร้อมใช้งาน แต่หากต้องการนำไปเป็นพ่อแม่พันธุ์อีกที ต้องปล่อยให้เข้าสู่วัยแก่ ลักษณะตัวเป็นสีน้ำตาล จะคัดออกเพื่อรอเป็นดักแด้ก่อนที่จะเป็นพ่อแม่พันธุ์อีกที อายุประมาณ 40 - 45 วัน
ส่วนตลาดจะส่งขายฟาร์มเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม ปลากัด ปลาหมอสี ปลาอื่น ๆ และสัตว์ปีกของนกชนิดต่าง ๆ จะมีโปรตีนสูง ช่วยเรื่องสร้างสีสัน โตไว ตอนนี้ยังมีผลิตภัณฑ์โปรตีนผงที่กำลังทดลองอยู่ คือ ใช้โปรตีนผงจากหนอน BSF ไปทำเลี้ยงวัยอ่อนของปลาที่ออกจากไข่ จะไปทดแทนไข่แดง ซึ่งมีโปรตีนสูงกว่า ตอนนี้ถ้าเป็นหนอนสดขายกิโลกรัมละ 140 บาท โดยจะเอาหนอนสดไปต้มและแช่ฟิชไว้ และยังมีแบบอบแห้ง กิโลกรัมละ 200 บาท ถ้าหากเป็นไข่หนอนขายอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 10,000 - 20,000 บาท กรณีเรื่องไข่หนอนจะต้องเก็บวันต่อวัน ที่บ้านจะไม่มีพื้นที่เก็บไข่ได้ในปริมาณมาก ๆ แต่สามารถเก็บได้ประมาณ 300 กรัม ส่วนการเขี่ยไข่ขายนั้นถ้าอากาศร้อนมีความชื้นพอสมควรไม่เกิน 3 วันก็จะเกิดเป็นตัวแล้ว
สำหรับตัวหนอน BSF หรือ ตัวหนอนแมลงวันลาย คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเกิดจากการเพาะเลี้ยง ซึ่งจริง ๆ สามารถดักจับในธรรมชาติได้ โดยแต่ละท้องถิ่นจะเรียกไม่เหมือนกัน อย่างที่นี่จะเรียกหนอนขี้ไก่ เพราะจะไปกินโปรตีนที่อยู่ในขี้ไก่ ข้อดีของแมลงวันลายคือ มันจะไม่เป็นแมลงรบกวนเหมือนกับแมลงวันบ้านที่จะตอมหาอาหาร แต่แมลงวันลายใน 1 ช่วงชีวิตของมัน 40 กว่าวันจะมีช่วงระยะบินแค่ 4 วัน เป็นการบินเพื่อจับคู่ผสมพันธุ์และวางไข่ จากนั้นจะตายไป ไม่ได้เป็นสัตว์ก่อความรบกวนในบ้าน และเศษอาหาร ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่จะช่วยย่อยเศษอาหารซึ่งเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ยังสร้างปุ๋ยที่มีธาตุอาหารสูงให้กับธรรมชาติ ส่วนกลิ่น เกิดเมื่อหนอนแมลงวันลายกินเศษอาหารไม่หมดช่วงระยะ 10 วัน สามารถสร้างกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ หรือ ฟีโรโมนเฉพาะมาคลุมเศษอาหารไว้ทำให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งไม่ได้ส่งกลิ่นรบกวนกับการเลี้ยง
ปัจจุบันที่นี่ยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ชื่อว่า บ้านจอมพล เป็นพื้นที่การเรียนรู้การจัดการขยะเศษอาหารแบบครบวงจร มีผู้สนใจเข้ามาศึกษาเรียนกันไม่ขาดสาย ที่ศูนย์ฯยังจำหน่ายพันธุ์ไม้ เช่น ต้นอะโวคาโด้ มะเขือเทศ พริก รวมทั้งพันธุ์ไม้อีกหลายชนิด และยังจำหน่ายปุ๋ยที่ผลิตจากเศษพืชผักผลไม้ที่ตัวหนอนได้กินแล้ว ถือเป็นปุ๋ยชั้นดี นำไปใส่ต้นไม้ทำให้เจริญเติบโตเร็ว มีออเดอร์สั่งจองผลิตแทบไม่ทัน
สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลได้และสั่งซื้อสินค้าได้ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก ชื่อเครือข่ายคนเลี้ยงหนอน หรือ ติดต่อที่เบอร์นายทศพร ศรีเรือง 083 - 9286938