ออกอาการตระหนก ช็อกโลกไปตามๆ กัน เพราะไม่เคยเห็นสถานการณ์และบรรยากาศเยี่ยงนี้กันมาก่อน

สำหรับ ฉากปะทะคารมอย่างดุเดือดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งมีรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ แห่งสหรัฐฯ เข้าร่วมผสมโรงเติมไฟเดือดให้ร้อนแรงยิ่ง ด้วยการร่วมวงวิวาทะเข้าไปอีกคน เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาในสหรัฐฯ

โดยฉากฟาดฝีปากเดือดก็มีขึ้นใน “ห้องทำงานรูปไข่” ของ “ทำเนียบขาว” อันเป็นทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของประเทศ

การปะทะคารมอย่างดุเดือดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ (ขวา) กับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ภายในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ (Photo : AFP)

ส่งผลให้การเจรจาสันติภาพในยูเครน ในการที่จะหยุดยั้งการสู้รบที่ดำเนินมา 3 ปีกว่า ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 (พ.ศ. 2565) ระหว่างรัสเซียกับยูเครน ก็จะต้องดำเนินอยู่ต่อไป พร้อมกับการข้อตกลงว่าด้วยการชดเชยในความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่อยูเครน ด้วยผลประโยชน์เป็นสินแร่ แร่ธาตุหายากในยูเครน ก็มีอันต้องล่มไปอย่างไม่เป็นท่า

ตามฉากของการเปิดศึกวิวาทะว่าจะดุเดือดกันเพียงใดนั้น ก็อาจจะกล่าวได้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ แทบอยากตะเพิดไล่ประธานาธิบดีเซเลนสกี ออกจากทำเนียบขาวให้รู้แล้วรู้รอด

ทำให้หลายๆ ประเทศ ต้องส่งสัญญาณท่าทีว่า จะรับบทเป็น “กาวใจ” สำหรับ การสร้างสันติภาพให้บังเกิดขึ้นในยูเครนต่อไปกันจ้าละหวั่น

เริ่มจาก “อังกฤษ” ประเทศซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางต่อจากสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีเซเลนสกี ปรากฏว่า ทาง “เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์” ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทันทีที่ประธานาธิบดีเซเลนสกี เดินทางถึงกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือหลังจากที่ปะทะคารมกับประธานาธิบดีทรัมป์ที่ทำเนียบขาวได้ 1 วัน หรืออีกวันถัดมา

โดย “เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์” เปิด “บ้านเลขที่ 10” ถนนดาวนิง กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นที่ทำงาน คือ ทำเนียบนายกรัฐมนตรี และบ้านพักของนายกรัฐมนตรี จะเรียกว่า เป็นบ้านพักประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็ว่าได้ ให้การต้อนรับการเดินทางมาเยือนของประธานาธิบดีเซเลนสกีกันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ นอกจากมีการหารือระหว่างกันแล้ว ก็ยังมีการเลี้ยงน้ำชา ดื่มชาระหว่างกัน ตามแบบฉบับของชาวเมืองผู้ดีอังกฤษ เพื่อให้การต้อนรับอันแสนอบอุ่นอีกต่งหากด้วย

เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เลี้ยงน้ำชารับรองการเดินทางมาเยือนอังกฤษของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน (Photo : AFP)

ตามการเปิดเผยของ “เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ” ระบุว่า เตรียมที่จะหาทางฟื้นฟูความหวังสันติภาพยูเครนให้หวนกลับมาบังกิดขึ้นอีกครั้ง ในการประชุมที่ทางอังกฤษจะจัดขึ้นในสัปดาห์นี้ ที่ซึ่งการประชุมดังกล่าว ก็จะมีประธานาธิบดีเซเลนสกี ร่วมหารือกับบรรดาผู้นำชาติตะวันตก หรือไม่ก็ตัวแทนของผู้นำชาติตะวันตกที่ส่งมาเจรจาหารือที่จะมีขึ้นในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ สถานที่ในการประชุมหารือ ก็ไม่ใช่แห่งใดที่ไหนอื่น แต่เป็นบ้านเลขที่ 10 ของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นั่นเอง

บรรดาผู้นำและตัวแทนของชาติตะวันตก เดินทางมายังบ้านเลขที่ 10 ถ.ดาวนิง กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพื่อประชุมหารือร่วมกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน (Photo : AFP)

เบื้องต้นในการเจรจานอกรอบ ก่อนการประชุมอย่างเป็นทางการ ทางนายกรัฐมนตรี เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งอังกฤษ ก็ได้ให้คำมั่นว่า อังกฤษจะยังคงสนับสนุนยูเครนต่อไปเช่นเดิม

ในส่วนของประเด็นที่จะมีการหารือในประชุมกันอย่างเป็นทางการนั้น ก็คาดการณ์กันว่า บรรดาผู้นำชาติสำคัญของยุโรปตะวันตก อาจจะต้องรับไม้ต่อจากสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือแก่ยูเครนต่อไป หลังจากที่สหรัฐฯ ในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ขู่ว่าจะตัดความช่วยเหลือยูเครน ยิ่งเมื่อเหตุการณ์ฟาดฝีปากกันในทำเนียบขาว ก็ค่อนข้างแน่ชัดแล้ว ยูเครนอาจจะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ เฉกเช่นในยุคของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่เพิ่งผ่านพ้นไป

ทั้งนี้ เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยังกล่าวเน้นย้ำด้วยว่า ในการประชุมหารือระหว่างเหล่าผู้นำและตัวแทนจากชาติตะวันตกกับประธานาธิบดีเซเลนสกี ที่กรุงลอนดอนครั้งนี้ จะได้ “มาตรการที่เป็นรูป ธรรม” มากยิ่งขึ้น สำหรับการช่วยเหลือยูเครน

อย่างไรก็ดี ทางเหล่าชาติตะวันตก จะสามารถฟื้นฟูความหวังที่จะสร้างสันติภาพในยุเครนได้จริงหรือไม่ ก็ต้องพิจารณากันต่อไป เมื่อการส่งสัญญาณว่าจะรับไม้ต่อจากสหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนนั้น นอกจากเรื่อง “เงินทุน” ที่จะให้ยูเครนแล้ว ก็ยังจะมีการช่วยเหลือด้าน “อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ” ช่วยเหลือแก่ยูเครนด้วย นั่น! ก็หมายความว่า สถานการณ์สู้รบต่อต้านกองทัพรัสเซียในยูเครน ก็จะยังคงเดินหน้าต่อไป เนื่องจากยูเครน ยังคงได้เขี้ยวเล็บให้แก่กองทัพสำหรับต่อกรกับกองทัพรัสเซียอย่างต่อเนื่อง

ทางด้าน “เยอรมนี” ที่ยังคงสาละวนกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังผลการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าเปลี่ยนสีมาอยู่ที่กลุ่มพรรคการเมืองสายอนุรักษ์นิยม แต่ทว่า อำนาจบริหารที่ยังคงเหลืออยู่ในมือของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ก็ได้เรียกร้องให้ปล่อยเงินจำนวนถึง 3 พันล้านยูโร หรือราว 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครน

นอกจากเหล่าชาติตะวันตกและอังกฤษ ที่แสดงออกถึงการเป็นกาวใจ ในการฟื้นฟูให้ความหวังที่จะให้สันติภาพในยูเครนบังเกิดขึ้นแล้ว ปรากฏว่า ก็ยังมีชาติใหญ่อื่นๆ แสดงท่าทีที่จะช่วยฟื้นฟูสันติภาพให้บังกิดขึ้นในยูเครนอีกด้วยเช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็น “ตุรเคีย” ที่ทางการรัฐบาลอังการา โดยนายฮาคาน ฟีดาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงยืนยันว่า ตุรเคียเสนอตัวที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเพื่อเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

นายฮาคาน ฟีดาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของตุรเคีย (Photo : AFP)

ทั้งนี้ การเสนอตัวดังกล่าว ทางการตุรเคีย ยังจะกล่าวย้ำถึงเรื่องนี้ในการประชุมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษอีกด้วย

พร้อมกันนี้ ตุรเคีย ยังแสดงถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความเป็นอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน โดยทางตุรเคีย เคยประสบผลสำเร็จ ในการเจรจาข้อตกลงเพื่อให้ยูเครน สามารถส่งออกธัญพืชในทะเลดำได้อย่างปลอดภัยมาแล้ว

นายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (Photo : AFP)

นอกจากนี้ ก็ยังมีญี่ปุ่น โดยนายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรี แสดงเจตจำนงที่จะร่วมสร้างสันติภาพในยูเครน โดยจะเริ่มจากการเป็นกาวใจ ประสานรอยร้าวระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครน และกลุ่มประเทศจี7 เป็นเบื้องต้น ก่อนจะเดินหน้าสร้างสันติภาพให้บังเกิดขึ้นในยูเครนต่อไป