การระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคเอเชีย ผู้เลี้ยงสุกรไทยต้องแบกต้นทุนการผลิตสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะต้องปรับตัวเพิ่มการลงทุนยกระดับการเลี้ยงสู่ระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) เพื่อการจัดการและดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรค โดยการลดความเสี่ยงของการนำเชื้อโรคเข้ามาสู่ฟาร์ม รวมถึงการกระจายของเชื้อโรคภายในและออกจากฟาร์ม เพื่อผลิตเนื้อสัตวปลอดภัยและอาหารมั่นคงสำหรับผู้บริโภคอย่างยั่งยืน

รัฐบาลไทยควรเป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนและสนับสนุนให้ผู้เลี้ยงสุกรไทยลงทุนในมาตรการป้องกันโรค ใช้มาตรการที่เข้มงวดในการตรวจสอบสุขภาพสุกร การกำจัดสุกรที่ติดเชื้อ และการฆ่าเชื้อสถานที่และอุปกรณ์ทั้งหมด การสนับสนุนส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค ASF ให้ประสบความสำเร็จได้การรับรองตามมาตรฐานสากล ตลอดจนการเสริมสร้างความเข้มแข็งในฟาร์ม 

นอกจากนี้ รัฐบาลต้องส่งเสริมการพัฒนาสายพันธุ์สุกรที่ต้านทานต่อโรคสูง และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สามารถช่วยในการจัดการฟาร์มช่วยลดความเสี่ยงจากโรค ASF รวมถึงการปรับปรุงระบบการจัดการฟาร์มตามมาตรฐานไบโอซีเคียวริตี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและราคาเนื้อหมู

ทั้งโรคระบาด ASF และโรคระบาดสัตว์อื่นๆ ล้วนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นทุนการผลิตด้านมาตรการป้องกันโรคของเกษตรกรสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านความปลอดภัยทางชีวภาพเพื่อลดความเสี่ยงและช่วยให้การควบคุมโรคทำได้ดี ซึ่งต้นทุนดังกล่าวส่งผลโดยตรงราคาเนื้อหมูที่ต้องปรับขึ้นตามหลักการกลไกตลาด (Demand-Supply) และจำเป็นต้องสื่อสารถึงความจำเป็นและสร้างหลักประกันอาหารปลอดภัยให้สังคมและผู้บริโภคเข้าใจ 

ปัจจุบันยังมีรายงานว่า โรค ASF ยังคงระบาดทั่วทั้งภูมิภาคเอเซีย และประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้งลาว กัมพูชา และเวียดนาม ทำให้ไทยจำเป็นต้องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มงวด ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยรายงานของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าต้นทุนสุกรมีชีวิตของฟาร์มมาตรฐานเฉลี่ยอยู่ที่ 75-77 บาทต่อกิโลกรัม แต่สำหรับเกษตรรายเล็กและรายย่อยสูงถึง 80-85 บาทต่อกิโลกรัม และยังเป็นกลุ่มที่เสี่ยงสูงหากไม่มีระบบป้องกันโรคที่ดี 

ดังนั้น การจัดทำแผนเฝ้าระวังและควบคุมโรค รวมถึงการฝึกอบรมเกษตรกรเกี่ยวกับการป้องกันโรค ASF เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในการจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเช่นในปี 2565 ที่ไทยประกาศพบโรคนี้ระบาดในฟาร์มสุกรที่จังหวัดนครปฐม และทำให้ราคามีชีวิตหน้าฟาร์มพุ่งสูงขึ้นไปเกินกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม และยังทำให้หมูในประเทศขาดแคลนและราคาสูงมาก ที่สำคัญการร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงของการระบาด และส่งเสริมความยั่งยืนของอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรในประเทศไทย

โดย : ศิระ มุ่งมะโน นักวิชาการอิสระ