ศรชล.ภาค 3 โดย เรือ ต.993 เข้าจับกุมเรือประมงสัญชาติเมียนมา พร้อมลูกเรือและกัปตันเรือได้ จำนวน 6  คน ขณะรุกล้ำน่านน้ำไทย บริเวณพื้นที่น่านน้ำ เกาะช้าง ระนอง  ก่อนควบคุมเรือลำดังกล่าว มาตรวจสอบที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง  

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.68  เวลา 19.00 น.พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3  ได้รับรายงานจาก หน่วยปฎิบัติการ ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 451  (นป.สอ.รฝ.451) เกาะช้าง ระนอง  ได้ตรวจพบเรือประมง ไม่ระบุสัญชาติ ได้ลุกล้ำน่านน้ำไทย ระยะ 3.2 ไมล์ ด้านทิศตะวันตก ของเกาะช้าง จึงสั่งการให้ เรือเอก อภิภัทร ศิริคง ผู้บังคับการเรือ ต.993 นำเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ซึ่งประจำการในทะเลระนอง เข้าทำการตรวจสอบและจับกุมทันที  

จนกระทั่งเวลา  21.00 น. เรือ ต.993 ได้พบเรือประมงไม่ทราบสัญชาติดังกล่าวบริเวณด้านใต้เกาะสินไห  ระยะ 4.5 ไมล์ จากเกาะช้างระนอง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ทะเลอาณาเขตของจังหวัดระนอง จึงเข้าทำการจับกุมและควบคุมเรือประมงลำดังกล่าวทันที โดยด้านข้างกาบเรือระบุชื่อเรือ  แอนนาวอร์ มิน 999 ซึ่งเป็นเรือสัญชาติเมียนมา  แล่นเรือในน่านน้ำไทยโดยไม่ชักธง และไม่มีเรดาห์นำทาง  ตรวจสอบภายในเรือ  มีลูกเรือชาวเมียนมา ทั้งสิ้น 6 คน  แต่ไม่พบเครื่องมือทำการประมงแต่อย่างใด   ใต้ท้องเรือสะอาด แต่ว่างเปล่า  ไม่มีถังใส่ปลา หรือน้ำแข็ง เหมือนกับเรือประมงทั่วไป ลักษณะเดียวกับเรือประมงที่ทางทัพเรือภาค3 เคยจับได้ที่ทะเลระนอง เมื่อวันที่ 7 ก.พ.68 เดือนที่ผ่านมา ลักษณะคล้ายกระทำสิ่งผิดกฎหมาย อย่างใดอย่างหนึ่ง มาก่อนหน้าที่ทหารเรือจะเข้าทำการจับกุม ก่อนจะทำการลากจูง เรือประมงลำดังกล่าวพร้อมลูกเรือ มาเทียบท่า ที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง เมื่อเวลา 22.45 น. โดยมีนาวาเอก ไตรจักร  ศาสตราธรรม หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระนอง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารเรือในสังกัด ทัพเรือภาค3 ทั้ง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระนอง(ศรชล.ระนอง)  และ ศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเล ไทย-เมียนมา  (ศป.ชล.ทม.) ได้ร่วมกันตรวจสอบ ทำประวัติลูกเรือทั้ง 6 คน  และสอบสวนปากคำ ว่าเหตุใดจึงลุกล้ำน่านน้ำไทย

ทั้งนี้เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นเรือที่มีการกระทำผิดกฎหมาย เพราะมีข้อพิรุธหลายอย่าง โดยเช้าวันนี้ วันจันทร์ที่ 3 มี.ค.68 ศรชล.จว.ระนอง จะนำชุดสหวิชาชีพหลายหน่วยงาน เข้าทำการตรวจสอบเรือ พร้อมประสานหน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดระนอง มาเก็บรายละเอียดภายในลำเรือ เพื่อจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป