เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 1 มี.ค. 2568 ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในกรอบระยะเวลา 3 วันจะเพียงพอหรือไม่ ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นั้น มันก็ดีอย่างหนึ่งสำหรับพวกตนในฐานะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเราก็พร้อมซัพพอร์ตสนับสนุน ให้ข้อมูล ให้กำลังใจ และประคับประคองทุกอย่างกับนายก ฯ เพราะหากนายก ฯ ไม่รอดคนเดียว ก็ไม่เหลือใครสักคนในรัฐบาล เพราะฉะนั้นทุกคนต้องให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่อยู่แล้ว การจะเล่นการเมืองใดนั้นก็คงไม่มี ตนเชื่อว่าการที่ นายก ฯ ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจท่านเดียวในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะลงไปที่นายก ฯ คนเดียว เพราะนายก ฯ คือรัฐบาล และรัฐบาลคือรัฐมนตรีทุกคน
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ถ้าใครถูกพาดพิง หรือเกี่ยวข้องกับกระทรวงไหน รัฐมนตรีแต่ละท่านก็ต้องออกมาชี้แจง เพราะนายก ฯ ไม่มีทางที่จะทราบในรายละเอียดเชิงลึกได้ว่าที่มาที่ไปของการกระทำนั้นเป็นอย่างไร และรัฐมนตรีทุกท่านก็ต้องให้การสนับสนุน และชี้แจงหากเกิดการถูกพาดพิง ส่วนการไว้วางใจนายก ฯ นั้น มันเป็นที่ชัดเจนว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ต้องให้ความไว้วางใจนายก ฯ เพราะเราปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลที่มีนายก ฯ เป็นผู้นำ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากระทรวงภายใต้สังกัดของพรรคภูมิใจไทย จะมีการส่งรายงานหรือข้อมูลหรือการติวข้อสอบนายก ฯ ก่อนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายก ฯ ก็ต้องตอบได้ภาพรวมในเรื่องของนโยบาย แต่หากลงไปในรายละเอียด นายก ฯ ก็คงจะตอบไม่ได้ ตนก็ต้องไปกราบเรียนนายก ฯ ว่าในส่วนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของนายก ฯ ที่จะตอบ เพราะรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องในหน้าที่จะต้องมาตอบ เช่น เรื่องที่ดินเขากระโดง ก็ต้องเป็นตนที่ต้องมาตอบ
เมื่อถามถึงว่ารัฐมนตรีที่ดูแลงานในส่วนที่เกี่ยวข้องจะสามารถตอบแทนได้ใช่หรือไม่ เพราะนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ต้องเป็นบุคคลที่ชื่อ น.ส.แพทองธาร เป็นคนตอบ
“มันเกี่ยวข้องกับใครคนนั้นก็ต้องตอบ ไม่มีกฎที่ไหนระบุไว้ว่าบุคคลไหนจะต้องตอบได้แค่คนเดียว สมัยการอภิปรายในรัฐบาลที่แล้ว ถ้าเกิดรมว.ไหนจะถูกอภิปราย และมอบหมายให้รมช.ที่กำกับดูแลหน่วยงานที่ได้รับมอบหมาย และหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายถูกอภิปราย รมช.ก็สามารถลุกขึ้นมาตอบแทนได้ เพราะมันเป็นการทำงานแบบหมู่คณะ ใครตอบก็เหมือนกัน
ท่านอภิปรายนายก ฯ ก็คืออภิปรายการทำงานของรัฐบาล จะตอบอย่างไรก็แล้วแต่ก็อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายก ฯ อยู่แล้ว ใครจะมากำหนดกฎเกณฑ์อะไรก็แล้วแต่ก็อยู่ที่ตามเข้าใจ แต่รัฐบาลก็มีความเข้าใจว่าถึงเวลาก็ต้องตอบในส่วนที่ถูกพาดพิงมา” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะมีการใส่ชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก ฯ ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายก ฯ ในครั้งนี้ แต่ก็มีกระแสว่าจะมีการกระโดดขวางไม่ให้ใส่ชื่อของนายทักษิณ เข้าไปในการอภิปราย นายอนุทิน กล่าวว่า ใครเป็นคนกระโดดขวาง การยื่นญัตติให้ประธานสภาทุกอย่างอยู่ในหนังสือแล้ว ไม่มีอะไรก็อภิปรายไป หากอยู่ในข้อบังคับก็อภิปรายได้เต็มที่ แต่หากนอกข้อบังคับ ฝ่าย สส.ในสภาก็ทรงสิทธิ์ไว้ซึ่งการประท้วง ที่จะไม่มีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกที่จะไม่สามารถเข้ามาแก้ต่างด้วยตนเองได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติก็ว่ากันไป เพราะว่าทุกปีจะมีการออกนอกกรอบอภิปรายบ้าง ในส่วนผู้ที่ทำหน้าที่เป็นประธานก็ต้องควบคุมการประชุมให้อยู่ในกรอบระเบียบซึ่งไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่ารายชื่อของนายทักษิณจะอยู่ในการอภิปรายในครั้งนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่เห็น แต่ฝ่ายค้านยื่นมาแล้วก็แสดงว่าใส่ชื่อมาแล้ว จะได้หรือไม่ได้มันก็อยู่ที่การอภิปราย แต่สุดท้ายฝ่ายค้านก็อภิปรายนายก ฯ ส่วนชื่ออื่นจะเป็นองค์ประกอบในนั้น ตนคิดว่าก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร ตนคิดว่ารีบอภิปรายให้ประชาชนได้รับทราบดีกว่า และ นายก ฯ ก็เตรียมตัวที่จะชี้แจงรวมถึงรัฐมนตรีก็เตรียมชี้แจงด้วยเช่นกัน อันไหนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกโจมตีมา เราก็ถือโอกาสนี้ในการที่จะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ ย้ำว่าต่างคนต่างทำหน้าที่