วันที่ 1 มี.ค.68 นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง กรณีเมื่อวันที่ (27 ก.พ. 68) กลุ่ม สว. ยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา ให้พิจารณาส่งเรื่องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และผิดจริยธรรม กรณี กล่าวหาการฮั้วเลือก สว.เข้าข่ายความผิดอั้งยี่และฟอกเงิน โดยกลุ่ม สว.ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณาคดีฮั้วเลือก สว. เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่มีการเลื่อนการพิจารณาคดีดังกล่าวออกไป โดยอ้างว่าต้องรอ กกต.มาชี้แจง เป็นข้ออ้างเลื่อนลอย เหตุที่ไม่กล้ามีมติในวันดังกล่าวเพราะฮั้วกันไม่เสร็จ การประชุมบอร์ดมีคนภายนอกควบคุมบอร์ด 22 คน พยานหลักฐานที่ดีเอสไอกล่าวอ้างไม่มีความชัดเจนเลื่อนลอย เป็นการกลั่นแกล้ง สว.นำประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องมาบังคับใช้ข้ามแดน ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นเป็นการล้มล้างการปกครอง จำเป็นที่ สว. ต้องส่งเรื่องให้ประธานวุฒิสภาส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบ และในวันถัดมา มีรายงานข่าวจากสำนักงานประธานวุฒิสภาแจ้งว่าวันนี้ (28 ก.พ. 68) ได้ส่งคำร้องของคณะสมาชิกวุฒิสภา ถึง ประธานกรรมการ ป.ป.ช. โดยแนบหนังสือของคณะสมาชิกวุฒิสภา ไปด้วยนั้น
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนมองว่า สว.กลุ่มดังกล่าว เร่งรีบรวบรัด เข้าลักษณะกินปูนร้อนท้องกันหรือเปล่า กระบวนการทางกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการคดีพิเศษยังไปไม่ถึงไหนเลย ยังไม่ได้ออกจากห้องด้วยซ้ำไป ทำให้ สว.กลุ่มนี้ถึงออกตัวกันเร็วจัง อยากให้ประชาชนจับตามองเอาไว้ด้วย มาร์คตัวเช็คชื่อกันไว้หน่อยก็จะดี สว.ที่เขาไม่ได้ออกมาก็ไม่เห็นจะเป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเลย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ถ้าไม่ได้ทำผิดจะกลัวอะไรกับการตรวจสอบ ใช้โอกาสนี้เป็นการพิสูจน์ตัวเองไม่ดีกว่าหรือเผื่อประชาชนจะได้เกิดศรัทธาว่า สว.แม้จะมีตำแหน่งสูง หากมีข้อสงสัยในพฤติกรรมที่ผ่านมาก็พร้อมให้ความร่วมมือ สามารถตรวจสอบได้
ส่วนเรื่องฮั้วที่เอามากล่าวอ้างก็เหมือนกัน คุ้นๆ นะเรื่องนี้ เหมือนจะเคยทำกันที่ไหนมาก่อนหรือไม่ ส่วนตัวตนมั่นใจว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษมีข้อมูลจากการสืบสวนมากพอและเชื่อว่าน่าจะมีหลักฐานเด็ด ถึงออกมาทำเรื่องนี้ได้ เท่าที่ตนทราบ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องร้องเรียนถึงความไม่ชอบมาพากลกระบวนการได้มาซึ่ง สว. ซึ่งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมก่อนที่ สว.กลุ่มนี้ได้เข้ารับตำแหน่ง เป็นเรื่องระหว่างขั้นตอนกระบวนการเลือกตั้ง ถ้ามีหรือพบการกระทำความผิดทางอาญาฐานใดฐานหนึ่งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายอย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษก็ย่อมมีอำนาจดำเนินคดีได้ แล้วท่านจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ในปัจจุบันไปยุ่งเหยิงกับคดีในช่วงเวลาที่ตัวเองยังไม่ได้เป็น สว. มันใช่หรือเปล่า ถูกต้องหรือไม่
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ประชาชนจับตา ดูได้จากสื่อที่สะท้อนความสนใจในเรื่องนี้ ถ้า สว.กลุ่มดังกล่าวไม่ปิดหูปิดตาก็คงจะรู้ดี ถ้าท่านไม่ได้ทำผิดอะไร ได้มาโดยถูกต้องชอบธรรม แล้วท่านจะกลัวอะไร แค่กระบวนการตรวจสอบ ถ้าไม่ผิดก็บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไร้ข้อครหา ประชาชนยกย่อง แล้วค่อยออกมาเช็คบิลคนกลั่นแกล้งหรือใส่ร้ายก็คงจะไม่สาย แต่นี่อะไรเรื่องเพิ่งจะเริ่ม ท่านก็ออกมาประกาศสงครามกับคนที่เขาจะมาตรวจสอบท่าน แล้วยังไปร้อง รมว.ยุติธรรม กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าผิดจริยธรรม แล้วไม่กลัวว่าตัวเองจะทำผิดจริยธรรมกันเองบางเหรอ ตนอยากแนะนำให้ถอนเรื่องจะดีกว่า สง่างามกว่า อยากให้สนใจความรู้สึกของประชาชนกันหน่อย สว.เป็นผู้แทนปวงชน ถ้าแตะไม่ได้ตรวจสอบแล้วจะโดน ก็อย่ามาเป็นเลย สว. ลาออกไปเถอะ