รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกสหกรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” พร้อมช่วยเหลือค่าซ่อมแซมหลังคาบ้าน รายละ 1.5 หมื่นบาท
นายเชิดชัย พรหมแก้ว รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ พร้อมด้วยนายณรงค์พล พัฒนศรี ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ นายเสน่ห์ สภาพันธ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ เขต 5 และ 6 ร่วมประชุมข้าราชการจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” เพื่อประชุมหารือและชี้แจงมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโซนร้อน ปาบึก ณ ห้องประชุมสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช
นายเชิดชัย กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ แนะนำให้สหกรณ์ช่วยเหลือสมาชิกผู้ประสบภัยด้วยสหกรณ์เป็นลำดับแรก ดังนี้ ให้ใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์ นำไปช่วยเหลือสมาชิกผู้ประสบภัย เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือเยียวยาในด้านต่างๆ และลดหรืองด การคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืม รวมทั้งขยายเวลา การชำระหนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่สมาชิกสหกรณ์ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ให้สหกรณ์กู้ยืมโดยปลอดดอกเบี้ย เพื่อให้สหกรณ์นำไปให้สมาชิกกู้ยืมฟื้นฟูอาชีหลังภัยพิบัติ โดยสหกรณ์ที่มีหนี้เงินกู้กับกองทุนพัฒนาสหกรณ์ก่อนเกิดภัยพิบัติ ให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอย่างงน้อย 1 ปี และให้สหกรณ์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สมาชิกรายที่มีหนี้ก่อนภัยพิบัติลง ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยภาครัฐจะชดเชยดอกเบี้ยที่ลดลง
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ส่งมอบข้าวสาร จำนวน 2 ตัน จากสหกรณ์การเกษตรกัณทรลักษณ์ จำกัด จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งบริจาคผ่านเครือข่ายสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านเสม็ดจวนพัฒนา จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนำไปมอบให้กับสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีนายชาตรี เกตุเรน สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้แทนรับมอบ และได้ลงพื้นที่ ณ นิคมสหกรณ์ปากพญา เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการและบุคลากร ซึ่งสำนักงานของนิคมสหกรณ์ปากพญาได้รับความเสียหายจากพายุ "ปาบึก" อย่างหนัก พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นซึ่งได้รับบริจาคจากเครือข่ายสหกรณ์ ประกอบด้วย ข้าวสาร และน้ำดื่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกของนิคมสหกรณ์ต่อไป
“รวมทั้ง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ อาทิ สหกรณ์เคหะสถานบ้านมั่นคงปากนคร จำกัด และสหกรณ์นิคมประมงปากพญา จำกัด โดยบ้านของสมาชิกได้รับความเสียหายจากลมพายุเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นายสวงค์ สีเผือก ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ปากพญา ได้ให้การช่วยเหลือสหกรณ์ในการซ่อมแซมหลังคาเบื้องต้น จำนวน 15,000 บาท และได้มอบข้าวสารและน้ำดื่มให้กับสมาชิกสหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด จำนวน 129 ราย”นายเชิดชัย กล่าว
นายเชิดชัย กล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ แนะนำให้สหกรณ์ช่วยเหลือสมาชิกผู้ประสบภัยด้วยสหกรณ์เป็นลำดับแรก ดังนี้ ให้ใช้เงินทุนสาธารณประโยชน์ นำไปช่วยเหลือสมาชิกผู้ประสบภัย เช่น ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย หรือเยียวยาในด้านต่างๆ และลดหรืองด การคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืม รวมทั้งขยายเวลา การชำระหนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่สมาชิกสหกรณ์ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ได้จัดสรรงบประมาณจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ให้สหกรณ์กู้ยืมโดยปลอดดอกเบี้ย เพื่อให้สหกรณ์นำไปให้สมาชิกกู้ยืมฟื้นฟูอาชีหลังภัยพิบัติ โดยสหกรณ์ที่มีหนี้เงินกู้กับกองทุนพัฒนาสหกรณ์ก่อนเกิดภัยพิบัติ ให้ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปอย่างงน้อย 1 ปี และให้สหกรณ์ลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สมาชิกรายที่มีหนี้ก่อนภัยพิบัติลง ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยภาครัฐจะชดเชยดอกเบี้ยที่ลดลง
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้ส่งมอบข้าวสาร จำนวน 2 ตัน จากสหกรณ์การเกษตรกัณทรลักษณ์ จำกัด จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งบริจาคผ่านเครือข่ายสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านเสม็ดจวนพัฒนา จำกัด จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนำไปมอบให้กับสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีนายชาตรี เกตุเรน สหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้แทนรับมอบ และได้ลงพื้นที่ ณ นิคมสหกรณ์ปากพญา เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจข้าราชการและบุคลากร ซึ่งสำนักงานของนิคมสหกรณ์ปากพญาได้รับความเสียหายจากพายุ "ปาบึก" อย่างหนัก พร้อมมอบสิ่งของจำเป็นซึ่งได้รับบริจาคจากเครือข่ายสหกรณ์ ประกอบด้วย ข้าวสาร และน้ำดื่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกของนิคมสหกรณ์ต่อไป
“รวมทั้ง ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสมาชิกสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ อาทิ สหกรณ์เคหะสถานบ้านมั่นคงปากนคร จำกัด และสหกรณ์นิคมประมงปากพญา จำกัด โดยบ้านของสมาชิกได้รับความเสียหายจากลมพายุเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ นายสวงค์ สีเผือก ผู้อำนวยการนิคมสหกรณ์ปากพญา ได้ให้การช่วยเหลือสหกรณ์ในการซ่อมแซมหลังคาเบื้องต้น จำนวน 15,000 บาท และได้มอบข้าวสารและน้ำดื่มให้กับสมาชิกสหกรณ์นิคมประมงนครศรีธรรมราช จำกัด จำนวน 129 ราย”นายเชิดชัย กล่าว