วันที่ 28 ก.พ.68 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ กรมศุลกากร ตามนโยบายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการให้มีการปราบปรามการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะในกลุ่มนักเรียนและร้านค้ารอบสถานศึกษา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำหนดกรอบการทำงานให้เห็นผลใน 30 วัน และสั่งการให้นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมหารือร่วมกับ 17 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางกรอบการทำงานและกำหนดแผนการดำเนินงาน โดยได้กำหนดการทำงานเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ระยะเร่งด่วน เน้นการปราบปรามสกัดกั้นแนวชายแดนไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า สกัดการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ส่วนที่ 2 การประชาสัมพันธ์สร้างความตระหนักรู้ในเชิงรุก และส่วนที่ 3 การศึกษาข้อกฎหมาย ที่จะเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว 

นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร ได้ขานรับนโยบายและกำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดกวดขันในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด ด้วยการจับกุมผู้ลักลอบนำเข้าและผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบอย่างจริงจัง เด็ดขาด และต่อเนื่อง รวมถึงบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยให้เจ้าหน้าที่ตามด่านศุลกากรในพื้นที่ ตรวจเข้มกับสินค้าทุกประเภทที่อาจมีการซุกซ่อนบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักร ทางตู้สินค้าและพัสดุไปรษณีย์ รวมถึงบูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ ทหาร กระทรวงมหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสืบสวนหาข่าวลักลอบการนำเข้า นอกจากนี้ ยังให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรลงพื้นที่ตรวจเข้มร้านค้า โกดัง ที่มีการข่าวแจ้งว่าอาจมีการลักลอบจำหน่ายหรือเก็บบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ มาโดยตลอด

สำหรับที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 2567 กรมศุลกากร จับกุมบุหรี่ไฟฟ้า 1.27 ล้านชิ้น มูลค่า 111 ล้านบาท และในปีงบประมาณ 2568 (ต.ค. 2567 - ม.ค. 2568) จับกุมบุหรี่ไฟฟ้า ได้จำนวน 521,447 ชิ้น มูลค่า 32.40 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 1.79 ล้านชิ้น มูลค่า 143.58 ล้านบาท