มหาสังข์นารายเรียกทรัพย์วัดไผ่ล้อม นครปฐม สืบตำนาน สานมงคล ตำรับโบราณ มงคลวัตถุคู่บารมี
สังข์ เป็นหอยทะเลที่มีลักษณะเป็นเปลือกฝาเดียว และเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่มาหลายร้อยล้านปี มนุษย์จึงมีการเรียนรู้ถึงความเป็นมาตั้งแต่ยุคโบราณและมีความเชื่อมโยงกับมนุษย์มมาอย่างยาวนานโดยในหลายลัทธิ มีการนำสังข์ชนิดต่างๆมาประกอบพิธีกรรมด้วยความเชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลนานา จึงปรากฏให้เห็นในงานมงคลทั้งในศาสนาต่างๆ จนเป็นที่ยอมรับกันมาถึงในปัจจุบันกาล
"มหาสังข์" หรือสังข์ทักษิณาวัฏ เป็นสังข์เวียนขวา มีความศักดิ์สิทธิ์มงคลยิ่งโดยเฉพาะหากเทพมนต์และน้ำพระพุทธมนต์ ที่ได้ไหลผ่านมหาสังข์จะเกิดความเป็นมงคล เจริญรุ่งเรือง อุดมสมบูรณ์ เกิดพลังเป็นการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์ เจ้านายระดับสูงนิยมเก็บไว้บูชาหรือประกอบในพิธีการสำคัญอยู่เสมอมา
ตามพงศาวดาร กล่าวไวว่า เมื่อครั้งที่พระอิศวรสร้างเขาพระสุเมรุ ทรงมีประกาศิตให้พระพรหมธาดาเป็นใหญ่กว่าพรหมทั้งหลาย เป็นเหตุให้พระพรหมองค์หนึ่งเกิดจิตริษยา จุติลงมาเป็น "สังขอสูร" ได้มาพบพระพรหมขณะบรรทม จึงขโมยพระคัมภีร์ไป จากนั้นพระนารายณ์จึงตามเอาคืน โดยยื่นพระหัตถ์เข้าไปในปากสังข์อสูร เพื่อหยิบเอาพระคัมภีร์ จึงมีรอยนิ้วปรากฏ และสาปสังข์อสูร ให้เป็นพรหมมาจุติ ถ้าผู้ใดจะทำการมงคลพิธีในภายภาคหน้าจงเอาสังข์เข้าอยู่ในพิธีนั้นนับเป็นมงคลยิ่ง
ส่วนในขนบประเพณีของไทย "มหาสังข์" จะปรากฏในพิธีการที่พระมหากษัตริย์ ในเครื่องมงคล ๘ ประการ ประกอบด้วย ๑.คทา ๒.สังข์ทักษิณาวรรต ๓.จักร ๔.ธงสามชาย ๕.หญ้าแพรก ๖.โคอุศุภราช ๗.หม้อน้ำมนต์ และ ๘.ขอสับช้าง เรียกว่า "อัฏฐพิธมงคล" นอกจากนี้แล้วบางตำนานและบางความเชื่อก็ว่า การนำหอยสังข์มาใช้ในพิธีรดน้ำสังข์ ก็เพราะว่าสังข์ คือหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ๑๔ อย่าง อันเกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดาและอสูร จึงถือเป็นของสิริมงคลสำหรับคู่บ่าวสาว ส่วนประเพณีการใช้น้ำพระพุทธมนต์บรรจุในสังข์ ก็โดยเหตุที่คนไทยเป็นพุทธศาสนิกชน ดังนั้นน้ำที่เกิดจากการเจริญพระพุทธมนต์ จึงถือเป็นสิ่งมงคลยิ่ง จึงทำให้ในพิธีแต่งงานได้นำน้ำมาบรรจุในหอยสังข์ การรดน้ำสังข์จึงเสมือนเป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตคู่
ทั้งนี้มีคติความเชื่อมาตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบันว่า มหาสังข์ เรียกทรัพย์ นับเป็นมงคลวัตถุที่อยู่คู่กับมหาเศรษฐีและผู้มีอันจะกิน ได้ถือครอบครองมาตั้งแต่โบราณกาล
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ผู้เป็นทายาทพุทธาคมหลวงพ่อพูล อมตะเถราจารย์วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม สนองเบื้องบน เนรมิตจุติ สุดยอดวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง “มหาสังข์” พระนารายณ์เรียกทรัพย์ มหามนต์ มหาเวทย์ พลังเหนือปฐพีด้วยวิถีรังสรรค์แสวงหายิ่งนัก
สำหรับ “มหาสังข์ พระนารายณ์เรียกทรัพย์” หมายถึง มหาสังข์ที่มีการขดวนของเปลือก ที่ปากของพระมหาสังข์ มีริ้ว ๒-๔ ริ้ว อันเกิดจากนิ้วพระหัตถ์ของพระนารายณ์ ที่ปรากฏอยู่นั้น เป็นพระมหาสังข์เปี่ยมมงคลสำคัญที่สุด
พุทธศิลป์ด้านหน้า “พระมหาสังข์ พระนารายณ์เรียกทรัพย์” เนื้อหามวลสารเกิดจากธรรมชาติ สีขาว บรรจงเลี่ยมโลหะจับขอบ ชุบทองไมครอนและชุบทองคำขาว หุ้มพระมหาสังข์ นับจากด้านบนยอดสุดชั้นแรก เลี่ยมประดับอัญมณีพลอย(รัสเซีย) และประดับพลอยสีประจำวันเกิด นพรัตน์นพคุณ ๙ สี ส่วนด้านปาก เลี่ยมลวดลายแบบโบราณ ประดับพลอยสีขาว จากปากบนถึงปลายล่างสุด
พุทธศิลป์ด้านหลังตรงจุดศูนย์กลาง “มหาสังข์ พระนารายณ์เรียกทรัพย์” ประจุพุทธาคมยิงเลเซอร์ ลงอักขระยันต์ครู หลวงพ่อพูล และนะหัวใจพระสีวลีแห่งโชคลาภเมตตามหามงคล เงินทองไหลมา ที่ว่า "นะ ชา ลี ติ" ขนาดแขวนคอ พร้อมติดห่วงมหาสังข์ มีความกว้าง ๓ ซม. ยาว ๖ ซม. มีความงดงามตามธรรมชาติ ตามแบบพุทธศิลป์ไทยอย่างแท้จริง
รายการวัตถุมงคล“มหาสังข์พระนารายณ์เรียกทรัพย์”
1..ขนาดบูชา 10,000 บาท
2.ขนาดห้อย เลี่ยมโลหะ ชุบทองไมครอน บูชา 1,500 บาท
3.ขนาดห้อย เลี่ยมชุบทองคำขาว บูชา 1,500 บาท
สำหรับปัจจัยในการเปิดบูชา เพื่อสนับสนุนสมทบกองทุนหลวงพ่อพูล ในการจัดสร้างศูนย์ไตเทียมวัดไผ่ล้อมและก่อสร้างวัดหลวงพ่อพูลกาญจนาราม ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และสนับสนุนโครงการเพื่อช่วยเหลือญาติโยมที่ประสบปัญหาในการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ โดยมีวัดไผ่ล้อมเป็นศูนย์กลางการประสานงานเพื่อญาติโยมสืบไป