นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยกับสื่อมวลชนในโครงการสื่อมวลชนสัญจร สืบสานพระราชดำริ ประจำปี 2567 ของสำนักงาน กปร. ในระหว่างเยี่ยมชมกิจกรรมในโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมาว่า การดำเนินงานขยายผลสำเร็จจากการศึกษาทดลองเพื่อแก้ไขปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร นอกจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้ง 6 แห่งแล้วยังมีจากศูนย์สาขาอีก 19 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย
โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ เป็นศูนย์สาขาของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2528 และวันที่ 26 พฤศจิกายน 2529 ให้ดำเนินการศึกษาวิธีการปรับปรุงบำรุงดินที่เสื่อมโทรมให้สามารถใช้ประโยชน์ ในการเพาะปลูกได้ รวมทั้งทดสอบวางแผนและจัดระบบปลูกพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดย สำนักงาน กปร. กรมพัฒนาที่ดิน ร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ สนองพระราชดำริด้วยการพัฒนาดิน น้ำ และป่าไม้ พร้อมส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่ เช่น การใช้หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ การปรับปรุงดินลูกรังด้วยมูลไส้เดือนดิน การปลูกพืชแบบผสมผสาน การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่อับฝน รวมถึงการฟื้นฟูป่าตามแนวพระราชดำริ การปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ปัจจุบันพื้นที่ป่าได้เปลี่ยนจากป่าเต็งรังเป็นป่าเบญจพรรณ และจากการขยายผลสู่การปฏิบัติใช้ของราษฎรจนประสบความสำเร็จสามารถยกระดับจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเป็นแม่แบบให้กับเกษตรกรรายอื่นๆ นำไปปฏิบัติใช้ โดยโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ มีการจัดอบรมเผยแพร่องค์ความรู้ พร้อมสนับสนุนปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรในพื้นที่หมู่บ้านรอบโครงการ จำนวน 12 หมู่บ้าน สามารถยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ได้ถึง 10 แห่ง มีทั้งด้านเกษตรอินทรีย์ และเกษตรผสมผสาน โดยผลผลิตนอกจากจำหน่ายที่โครงการฯ และตลาดในตัวเมืองจังหวัดราชบุรีแล้วทุกวันศุกร์สิ้นเดือน ทางโครงการฯ จะนำผลผลิตในโครงการและศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ไปจําหน่ายที่สํานักงาน กปร. ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะขายหมดทุกครั้ง โดยสินค้าจะเป็นออร์แกนิก (เกษตรอินทรีย์) “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระองค์พระราชทานพระราชดำริให้เพาะปลูกพืชผักแบบเกษตรอินทรีน์เมื่อ 40 ปีที่แล้คือ การเพาะปลูกโดยไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและไม่ใช้สารเคมี เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนทั้งผู้ปลูกและผู้บริโภค ปัจจุบันได้รับการขยายผลอย่างกว้างขวางทั้งการผลิตและการบริโภค” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว
ด้านนายสุกิจ สุภาพงศ์ (สวนยายเหรียญ) ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ ด้านเกษตรผสมผสาน หมู่ที่ 7 ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เกษตรกรที่ได้รับการขยายผลจากโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ เผยว่า ครอบครัวทําการเกษตรตั้งแต่ปี 2510 โดยในรุ่นพ่อแม่ปลูกยาสูบ ต้องฉีดยาฆ่าแมลงและใส่ปุ๋ยเคมีทำให้สภาพดินเสื่อมโทรมเป็นกรด ได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาดูงานในโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ ได้เรียนรู้การทําน้ำหมัก การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเอามูลมาเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ และรับรู้ถึงแนวทางการปฏิบัติในการน้อมนำพระราชดำริปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้นำมาดำเนินการในพื้นที่ของตนเอง
“ในตอนนี้ พออยู่พอกิน ปลูกพืชแบบผสมผสาน เลี้ยงผึ้งโพรงและชันโรง มีการแปรรูปสมุนไพรเป็นผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำมันไพล โลชั่นถนอมผิว สบู่ก้อนสมุนไพร ปลูกพืชแบบผสมผสาน มีพืชผัก ไม้ผล พืชสมุนไพร แล้วให้ผึ้งโพรงและชันโรงเป็นตัวช่วยผสมเกษร ส่วนน้ำผึ้งนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ จำหน่าย ทุกวันนี้อยู่ได้ไม่เดือดร้อน” นายสุกิจ สุภาพงศ์ กล่าว
ส่วนนายสามารถ พูลเกษม เกษตรกรเครือข่ายขยายผล (สวนเกษตรสามารถ) หมู่ 7 ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี บอกว่ามีความภาคภูมิใจที่ได้เข้าร่วมในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดูข่าวและได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำเกษตรทฤษฎีใหม่มาตั้งแต่เป็นเด็กนักเรียน ครอบครัวทำนาแต่ผลผลิตไม่ดี เพราะดินเสื่อมโทรม จึงเอาแนวทางตามพระราชดำริในการปรับปรุงดินมาทำและเข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมที่โครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ นำมาปรับปรุงฟื้นฟูดิน โดยได้ปลูกแฝกป้องกันหน้าดินไม่ให้พังทลายไปกับน้ำ และได้ดึงน้ำจากใต้ดินขึ้นมารดต้นไม้ ตอนนี้ประสบผลสําเร็จสามารถปลูกพืชแบบผสมผสานในพื้นที่ได้อย่างดี เพียง 3 ปี ไม้ผลต่างๆ ทั้งมะม่วง ดอกแค ฝรั่ง และพืชอื่นๆ ก็ให้ผลผลิตแล้ว สามารถเก็บขายมีรายได้ทุกวัน
“มีความสุขและปลาบปลื้มยินดีมากที่ได้ทําตามแนวพระราชดำริของของพระองค์ท่าน นึกถึงทีไร ก็มีความสุข อนาคตก็จะเป็นผู้สูงอายุที่มีอาชีพมีความสุขกับครอบครัว” นายสามารถ พูลเกษม กล่าว