วันที่ 28 ก.พ.2568 เมื่อเวลา 11.10 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์กรณี ที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปแถลงการณ์ประณามรัฐบาลไทยกรณีส่งชาวอุยกูร์ กลับประเทศจีน ว่า เรื่องนี้เราได้ตรวจสอบแล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยเรื่องของชาวอุยกูร์เป็นเรื่องของการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และติดคุกที่ประเทศไทย 11 ปีแล้ว ซึ่งถือเป็นการรับโทษที่นาน ที่ผ่านมาเราตรวจสอบข้อมูลแล้วไม่เคยมีประเทศที่สามที่จะขอรับตัวเขาเหล่านั้น เพื่อที่จะไปอยู่ประเทศนั้นๆเลย และทางจีนก็ติดต่อมาพร้อมหลักฐานว่าพวกเขาเป็นคนจีน 

จริงๆหากเป็นเรื่องของประเทศอื่นๆเมื่อยืนยันได้ว่าเป็นประเทศไหนเราก็ส่งกลับประเทศนั้น เราไม่ได้ทำผิดกฎสหประชาชาติและไม่ได้ทำผิดกฎมนุษยชนแต่อย่างใด ซึ่งเราทราบดีในเรื่องสิทธิมนุษยชน และเราได้รับการยืนยันจากทางการจีนว่าถ้าเราส่งชาวอุยกูร์กลับไป เขาจะไม่ถูกดำเนินคดีแล้ว ไม่ต้องมีการสอบสวน สามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวและสังคมได้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลกับรัฐบาลคุยกันมาสักระยะแล้ว เมื่อมีการจัดการที่ดีของทั้งสองประเทศก็จะสามารถทำให้ชีวิตของชาวอุยกูร์เหล่านั้นปลอดภัยได้ 

สิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตอาจจะมีการจัดการที่ผิดพลาด แต่จาการคุยกันครั้งนี้ และจากที่ตนไปเยือนอย่างจีนเป็นทางการได้พูดคุยกับผู้นำหลายระดับ ซึ่งเขายืนยันว่าเขาให้คำมั่นสัญญากับทางไทยแล้วว่าทุกคนที่กลับไปจะปลอดภัย ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่ทำการส่งตัไปแน่นอน หากไม่ได้รับการยืนยันอย่างนี้

"คงไปได้เห็นรูปกันแล้ว ที่ชาวอุยกูร์ได้สู่อ้อมกอดครอบครัว ก็เป็นเรื่องน่ายินดี และจากนี้ทางการจีนยังอนุญาติให้สามารถบินไปเยี่ยมหรือสอบถามควาเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ว่าเป็นอย่างไร เขาไม่ได้ปิดกั้นตรงนี้เลย เราไม่มีทางส่งไปโดยที่ไม่ทราบว่าเขาจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรถ้าเป็นแบบนั้นเราไม่ทำแน่ เราเน้นเรื่องสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว พอเรามีความชัวร์เรื่องนี้ เรื่องนี้เราถึงได้ดำเนินการ " นายกฯ กล่าวว่า

เมื่อถามว่า มีข้อวิจารณ์ว่าการส่งตัวชาวอุยกูร์ครั้งนี้ เป็นการแลกเปลี่ยนทางการค้ากับจีน นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีเลย ไม่มีการแลกเปลี่ยนทางการค้าใดๆ กับหัวข้อที่ส่งขาวอุยกูร์กลับไป เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น เพราะหากจะคุยเรื่องการค้าก็เป็นเรื่องของการค้า แต่นี่เป็นเรื่องของคน ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้า คนไม่ใช่สินค้าไม่แลกกันแน่นอน

เมื่อถามต่อว่า จะมีการชี้แจงกับสหรัฐฯอย่างไรบ้าง นายกฯกล่าวว่า ต้องมีการติดตามข้อมูล ซึ่งข้อมูลล่าสุดเราประสานอย่างจริงจัง ไม่ได้พูดกันเล่นๆ ทุกอย่างพูดกันจริงจัง และการที่ตนไม่พูดหรือแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะในตอนแรก เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง เป็นเรื่องของรัฐบาล และการที่ตนระมัดระวังเรื่องการส่งข้อความ เป็นเรื่องรัฐบาลรับทราบและต้องการจะทำให้ปลอดภัยที่สุด ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุข้อขัดข้อง แม้กระทั้งตอนเดินทาง หรือทำอะไรรุนแรงที่ไม่เคารพสิทธิของเขา จี้ไปก็ไม่มีแต่เป็นการไปด้วยความสงบเรียบร้อย อย่างที่เห็นภาพตั้งแต่ลงเครื่องเขาได้กลับสู่ครอบครัวเขาจริงๆ

"เราลองคิดดู หากเกิดขึ้นที่ประเทศของเรา ภาพออกไปทั้วโลกแบบนี้แล้ว เราจะพลิกคำที่สัญญากับประเทศเพื่อนบ้าน มันก็จะผิดไม่ได้แต่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ทั่วโลกก็จะมองเห็น เพราะฉะนั้นดิฉันจึงมั่นใจว่าเมื่อกลับไปจะดูแลคนกลุ่มนี้อย่างดี " นายกฯ กล่าว

เมื่อถามอีกว่า การที่เมื่อวานนี้(27 ก.พ.) นายกฯยังไม่ยืนยันการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน เพราะต้องการความมั่นใจก่อนว่าเขาจะเดินทางกลับไปอย่างปลอดภัยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตอนนั้นเป็นเรื่องโพรโตคอลหรือหลักเกณฑ์ระหว่างประเทศว่าใครจะออกมาแถลง ทางจีนจะออกมาพูดก่อนหรือไม่ แต่การรับรู้รับทราบ ต้องรับทราบอยู่แล้ว แต่มันเหมาะสมหรือไม่ที่จะพูด ณ ตอนนั้น เพราะเมื่อวานมีหลายประเด็นหากตนตอบคำถามนี้ไปแค่ 2-3 คำ ข้อความถูกเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น มันเป็นเรื่องของมั่นคง เรื่องของประเทศ ไม่สามารถที่จะพูดแค่คำสองคำแล้วเดินไปได้ แต่ต้องมีการอธิบาย ฉะนั้นวันนี้ถึงมีการให้สัมภาษณ์อย่างนี้ ซึ่งรายละเอียดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ได้พูดไปแล้ว

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ หากสื่อไทยต้องการที่จะไปติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์จะทำได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าหากเป็นในส่วนของสื่อจะเป็นอย่างไร เพราะที่คุยกับรัฐมนตรี ก็สามารถไปได้

เมื่อถามอีกว่า รัฐบาลจีนชี้แจงรายละเอียดหรือไม่ว่า จะดูแลชาวอุยกูร์อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตอนพูดคุยกันเขายืนยันว่าจะให้ทุกคนกลับเข้าสู่สังคมอย่างปกติ พวกเขาไม่ได้เป็นอาชญากร ไม่ได้ทำอาชญากรรม เขาเข้าเมืองผิดกฎหมายและถูกคุมขังมาแล้วสิบกว่าปีมันนานมากแล้ว เมื่อไปถึงเขาให้ครอบครัวมารับ ตนเห็นจากรูปก็ไม่ได้เห็นใส่กุญแจมืออะไร

เมื่อถามว่า มีกระแสว่าประเทศตุรกีเตรียมรับชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ไป นายกฯ  กล่าวว่า ไม่มีประเทศที่สามมายืนยันที่จะขอรับตัวชาวอุยกูร์เลย อย่างประเทศที่ร้องเรียนก็ไม่ใครเสนอมาเลยสักคน และทางจีนยืนยันว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนจีน ประเทศไทยก็ต้องวส่งกลับไปจีน ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติปกติ

เมื่อถามต่อว่า ชาวอุยกูร์เดินทางกลับจีนด้วยความสมัครใจ มีเอกสารยืนยันหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าเอกสารมีอันไหนบ้าง แต่ในส่วนของกระบวนการตนเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย เรื่องเอกสารขอให้กระทรวงการต่างประเทศ และกลาโหม เล่าให้ฟังว่ามีเอกสารอะไรบ้าง ซึ่งยืนยันว่าเขากลับด้วยความสมัครใจ ไม่อย่างนั้นต้องลากเขาแล้ว แต่เดินปกติ

เมื่อถามต่ออีกว่า การส่งตัวกลับครั้งนี้ มีความกังวลว่าจะกระทบกับความสัมพันธ์กับประเทศมุสลิมหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องอาศัยเวลาในการอธิบาย และต้องดูด้วยว่าเขากลับไปแล้วปลอดภัยจริงหรือไม่ ซึ่งที่เห็นคือเขาปลอดภัยก็น่าจะเป็นเครื่องหมาย ในการอธิบายได้แล้วว่าไทยได้มีการประสานงานหลังบ้านแล้ว ว่าถ้าไม่ชัวร์เราก็ไม่ทำแน่อยู่แล้ว ถ้าส่งกลับไปแล้วเกิดอะไรขึ้นตนก็คงรับไม่ได้เช่นกัน เราเข้าใจทุกคนเป็นมนุษย์เหมือนกัน ฉะนั้นต้องชัวร์ ชัวร์แล้วชัวร์อีก ไม่อย่างนั้นก็คงไม่กล้าส่งไป