ตามคาด! “ฝ่ายค้าน” ล็อคเป้าซักฟอก “นายกฯอิ๊งค์” คนเดียว “เท้ง” ฉะ “ไร้ภาวะผู้นำ” ปล่อย “บิดา” ชักนำ จูงใจ ร่วมจัดการ ด้าน “พปชร.” ยันพร้อมร่วมมือ "ฝ่ายค้าน" เปิดศึกอภิปรายฯ ตรงไปตรงมา ลั่น “บิ๊กป้อม” เตรียมข้อมูลอัดรบ.ล้มเหลว-นายกฯขาดภาวะผู้นำ ขณะที่ “นายกฯ อิ๊งค์” เข้าสภาฯครั้งแรก! รับไม่เกินคาด “ฝ่ายค้าน” ล็อคเป้า รับตั้งองครักษ์ช่วย แจง "พ่อ" ไม่ป้อง แต่ขอคำปรึกษา
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสส.พรรคประชาชน และพรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงรายชื่อ 166 คน ประกอบด้วยพรรคประชาชน 143 คน , พรรคเป็นธรรม 1 คน , พรรคพลังประชารัฐ 19 คน และพรรคไทยสร้างไทย 3 คน ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านขออภิปรายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว เนื้อหาในการอภิปรายจะครอบคลุมทุกประเด็น หลายกระทรวง หลายพรรคร่วมรัฐบาล เราเชื่อว่าปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำ ไม่สามารถควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้ ขาดวุฒิภาวะขาดความรู้ความสามารถ มีการแต่งตั้งบุคคลที่เขาขอมา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอำนาจเหนือตนเอง รวมถึงยินยอมให้ผู้เป็นบิดาสามารถชักนำ จูงใจ มีส่วนให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เราเชื่อว่าทุกปัญหาเกิดจากนายกรัฐมนตรี เราเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเพียงผู้เดียว และต้องตอบชี้แจงด้วยตนเองเท่านั้น
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนจะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบตามระเบียบข้อบังคับ หลังจากนั้นจะส่งญัตติไปให้รัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลแจ้งมาว่าพร้อมเมื่อไหร่ แต่ทางรัฐบาลได้แจ้งไว้แล้วว่าพร้อมให้อภิปรายในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนจะใช้เวลาอย่างไร เป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้านฯ และฝ่ายรัฐบาลต้องไปตกลงกัน ซึ่งตนมอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง เป็นประธานในที่ประชุม ตนหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นไปได้ด้วยดีและเป็นประโยชน์กับประชาชน
เมื่อถามว่ามีกระแสข่าว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเข้ามาตั้งวอร์รูม เพื่อแถลงตอบโต้ หากเกิดกรณีที่ถูกพาดพิง นายวันมูหะมัดนอร์ มองว่า การอภิปรายเป็นเรื่องระหว่าง สส.และรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนการตั้งวอร์รูมก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค อย่างไรก็ต้องว่ากันตามกฎหมายและข้อบังคับ สิ่งสำคัญคือหากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก เขาก็สามารถดำเนินคดีได้
เมื่อถามว่าหากมีการอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว กังวลว่าจะมีการบานปลายไปถึงครอบครัว หรือบุคคลภายนอก มากน้อยแค่ไหน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า มีกติกาอยู่แล้ว ก็ว่าไปตามข้อบังคับและข้อกฎหมาย ปัจจุบันประชาชนมีความรู้เรื่องการเมืองมากขึ้น ซึ่งเขาก็จะชั่งน้ำหนักกันเอาเอง ว่าการอภิปรายสมเหตุสมผลอย่างไร และประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง
จากนั้น เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรกหรือแก้เกมข้อสอบรั่ว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรก ส่วนกระแสข่าวที่มีข้อสอบรั่ว ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง
เมื่อถามว่าญัตติที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เป็นเฟคนิวส์หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าตนไม่แน่ใจว่าทางผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลมาจากไหน แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริง ก็เปิดเผยตามที่เรายื่นญัตติ
เมื่อถามว่า ไม่กล้าอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเขาส่งข้อมูลให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการวิเคราะห์ทางการเมือง ไม่ว่าเราจะดำเนินการอย่างไร ก็จะมีการวิเคราะห์อีกด้านเสมอ ขอให้ติดตามเนื้อหาในการอภิปราย เพียงแต่ว่าการลงมติ เราลงแค่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
เมื่อถามว่าอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว จะกว้างออกทะเลไปหรือไม่ และมั่นใจในผู้อภิปรายว่าจะเอาอยู่หรือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อยากให้ติดตาม เป็นประเด็นที่เจาะจง มีหลักฐานค่อนข้างชี้ชัด ส่วนการลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวจะเป็นสิ่งที่อยากให้ประชาชนได้เห็นปัญหาของรัฐบาลชุดนี้
“แน่นอนครับ ตัวผมเชื่อมั่นใจพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เตรียมเนื้อหามาเป็นอย่างดี รวมถึงพรรคประชาชน เราได้เตรียมเนื้อหามาอย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าการอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวจะกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากดูที่ตัวเนื้อหาในญัตติค่อนข้างครอบคลุมในหลายประเด็น ตนอยากให้แยกการอภิปรายและการลงมติ หากตามกรอบญัตติ สะท้อนปัญหาทุกอย่างของรัฐบาล และอภิปรายได้ครอบคลุมแน่นอน ส่วนการลงมติจะพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรี ส่วนประเด็นการเมืองที่เราจะไปขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ตนไม่อยากให้มองอย่างนั้น เราตรวจสอบทุกอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามถึงการเอ่ยชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะผิดข้อบังคับหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในตัวญัตติมีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เรื่องนี้อยู่ที่ประธานสภาฯเอง เมื่อพิจารณาญัตติแล้ว ตนเชื่อว่าไม่ได้ขัดข้อบังคับแต่อย่างใด ถ้าบรรจุญัตติได้ตามนี้ แปลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถพูดถึงนายทักษิณได้ เพราะเป็นปัญหาสำคัญของประเทศในปัจจุบัน
เมื่อถามว่าจะต้องถึงขั้นยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า โดยกระบวนการปกติของสภาฯ จะลงมติไม่ไว้วางใจก่อน แต่แน่นอนว่าทุกครั้งสามารถดำเนินการอื่นๆได้ เช่น กรณีที่อดีตพรรคก้าวไกลยื่นถอดถอนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เมื่อถามว่าหวังผลถึงขนาดยุบสภาฯเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลได้ แต่เชื่อว่าเนื้อหาที่เราเตรียมมา เข้มข้นและพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีหลายคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีเอง ส่วนมีข้อมูลชี้ชัดถึงการทุจริตคอร์รัปชั่นเลยหรือไม่ ตนมีหลักฐานที่ชี้ชัดให้เห็นถึงการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีมาสภาฯในวันนี้ มีนัยยะอะไรหรือไม่ หรือเป็นเพราะฝ่ายค้านยื่นซักฟอก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาสภาฯ หากมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองก็จะดี มองว่าประชาชนคาดหวังให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองสักครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่าการอภิปรายนายกรัฐมนตรีคนเดียวแบบนี้ เป็นการกตัญญูต่อพรรคร่วมเลยไม่ซักฟอกหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พรรคร่วมฝ่ายค้านเรามองที่เนื้อหาเป็นหลัก แต่ที่ตัดสินใจยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวเพราะรากเหง้าปัญหาในการตัดตั้งรัฐบาลมาจากนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะตัดสินว่ามีการต่อรองกันระหว่างฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลในการแลกเนื้อหา จนทำให้เราไม่สามารถอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาลได้ อยากให้มองที่เนื้อหาว่าเราดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ขอให้รอดูคนที่อภิปรายต่อไปว่าเนื้อหาจะเข้มข้นแค่ไหน
ด้าน นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยสส.พลังประชารัฐ(พปชร.) แถลงว่า พรรคพลังประชารัฐยืนยันว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้พร้อมร่วมมือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคอย่างตรงไปตรงมา และจริงใจ นอกจากนี้พรรคเตรียมการทั้งข้อมูล เนื้อหาสาระ และผู้อภิปรายไว้เรียบร้อยแล้ว และได้รับการยืนยันจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังการอภิปรายในครั้งนี้ด้วย และพล.อ.ประวิตรได้ร่วมลงชื่อญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นหนึ่งในผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายชัยมงคล กล่าวว่า คงไม่ แต่พล.อ.ประวิตร เป็นผู้ให้ข้อมูล กำหนดแนวทางทั้งหมด รวมถึงกำหนดประเด็นด้วย ได้ผ่านการพูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า ประเด็นอภิปรายที่พล.อ.ประวิตร กำหนดมีเรื่องใดบ้าง นายชัยมงคล กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ ขอให้รอฟังในสภาฯ เรามีข้อมูลเพียงพอชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของรัฐบาล การขาดภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี
ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเข้าสภาฯ เป็นครั้งแรกภายหลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร เพียงคนเดียวว่า ก็ทราบข่าวเมื่อวันที่ 26 ก.พ. แต่ความจริงวางแพลนที่จะเข้าสภาฯ ไว้แล้วตั้งแต่ช่วงปีใหม่ โดยได้จิ้มวันที่เอาไว้แล้วว่าจะเข้าวันไหน แต่เป็นเรื่องบังเอิญที่เขาออกข่าวมาเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ซึ่งเราต้องดูในเรื่องของภารกิจก็จะหาวันเข้าให้ได้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี
เมื่อถามว่า เกินความคาดหมายหรือไม่ที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าใหญ่เพียงป้ายเดียว นายกฯ กล่าวว่า ไม่เกินเลยค่ะ เป็นสิทธิของฝ่ายค้านอยู่แล้ว และพูดคุยอยู่แล้วว่า อาจจะเป็นแบบนี้ แต่วันที่ไปรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลที่มีรายชื่อออกมาก่อนเป็น 10 ท่าน ก็รับทราบตามนั้น
เมื่อถามต่อว่า ได้อ่านหัวข้อที่ยื่นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง นายกฯ ถามย้อนกลับว่า “หัวข้อยื่นว่าอะไรบ้าง ทวนสิ” โดยผู้สื่อข่าวตอบว่า ญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นระบุว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ นายกฯ จึงกล่าวว่า ใช่ ตอบได้ทุกข้อ ถ้าอันไหนเกี่ยวกับกระทรวงไหนมีรายละเอียดลงมา ก็คงให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยกันตอบ แต่ถ้าเป็นภาพรวมอยู่แล้วที่ถามก็พร้อมตอบ
เมื่อถามอีกว่า มีการโยงไปถึงเรื่องการเป็นนั่งร้านให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดา นายกฯ กล่าวว่า ก็เตรียมตอบ สิ่งที่ถามมาก็เตรียมตอบเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ข้อกล่าวหาที่จะพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ กังวลอะไรบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เลยค่ะ ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แน่นอนว่าไม่ว่าจะพูดอะไรอย่างนั้น อย่างนี้ ถ้าจะถามว่ากระทบต่ออะไรบ้าง หากเราไม่มีหลักยึดในเรื่องของกฎหมายมันก็จะแย่ แต่ถ้ามีหลักยึดแล้วว่ามันเป็นไปตามกฎหมายก็พร้อมตอบอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า คิดว่าญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นแรงไปหรือไม่ที่ระบุว่าขาดภาวะผู้นำ ทำลายภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นของประเทศ ทำให้ต่างชาติไม่เชื่อมั่น นายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องดูข้อมูลจริงประกอบด้วย ว่าต่างชาติไม่เชื่อมั่นหรืออย่างไร ตนเข้าใจเพราะพรรคของตนก็เคยเป็นฝ่ายค้านร่วมกับท่านมา 8-9 ปี ก็เข้าใจอยู่แล้ว ไม่ได้ไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นก็ตอบไป อยากรู้อะไรมาก็ตอบไป
เมื่อถามต่อว่า มั่นใจหรือไม่ว่าสามารถตอบได้ทุกข้อกล่าวหา นายกฯ กล่าวว่า ตอบได้อยู่แล้ว แต่จะชอบคำตอบหรือเปล่าไม่ทราบ
เมื่อถามอีกว่า จะต้องมีการตั้งองครักษ์ขึ้นมาช่วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มีค่ะ ตั้งแน่ ทุกคนต้องช่วยกัน คนเดียวอาจจะคอแห้งนิดนึง (หัวเราะ)
เมื่อถามย้ำว่า ใครจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ให้นายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่หรอกค่ะ ที่เราพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าเกี่ยวข้องกับกระทรวงของตัวเอง ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกกระทรวงอยากตอบ เพราะมันเป็นผลงานของเขา เขาอยากตอบแน่ และอื่นๆ ต้องรอหน้างาน ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าจะออกมาอย่างไร คิดว่าจริงๆตั๋วฝั่งทุกๆท่าน หน้างานอาจจะมีอีกหลายแบบที่เกิดขึ้น