วันที่ 27 ก.พ. 2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งล็อกเป้าที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว จะสามารถอภิปรายเนื้อหาในการตรวจสอบกระทรวงกลาโหมได้แค่ไหน ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาลอยู่แล้ว ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่เฉพาะเจาะจงนายกฯ คนเดียว นั้น ตนคิดว่าสื่อมวลชน และประชาชน จะสามารถโฟกัสกับการอภิปรายได้ง่าย ว่าบุคคลผู้นี้ มีข้อบกพร่อง พฤติกรรม ความประพฤติอย่างไร ประชาชนคนไทยไม่สมควรให้คนแบบนี้มาเป็นประมุขฝ่ายบริหารประเทศนี้ มาคอยทำหน้าที่บริหารเงินภาษีให้กับประชาชนอีกต่อไอย่างไร 

สำหรับรัฐมนตรี ก็อาจใช้สิทธิ์พาดพิงได้บ้าง แต่เมื่อเราโฟกัสไปที่นายกฯ คนที่จะอธิบายกับสภาได้ มีเพียงคนเดียวคือนายกฯ ต้องตรวจบัตรประชาชนด้วยว่า ใช่ชื่อนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ ก็อภิปรายไม่ได้ เพราะเราไม่รู้ว่ามีชั้น 14 15 16 ใส่หูฟังให้พูดตามหรือไม่

ส่วนลูกพรรคที่ถูกพาดพิง หรือใช้การประท้วง ตนคิดว่า อย่าทำเลย มันเป็นการประจานตัวเอง และองค์กร ต่อหน้าประชาชน และสภาฯ เปล่าๆ และหากมีการให้รัฐมนตรีตอบแทน ก็ต้องคำถามว่า วุฒิภาวะของนายกฯ เป็นอย่างไร

เมื่อถามถึงกระแสข่าว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีการตั้งวอร์รูมตอบโต้ หากเกิดกรณีถูกพาดพิง นายวิโรจน์ มองว่า เป็นเรื่องปกติ แต่การให้พ่อมาช่วยตั้งวอร์รูมเป็นเรื่องผิดปกติ อายุเท่านี้แล้ว ยังต้องให้พ่อมาช่วยตั้ง วอร์รูม แต่ให้ท่านตอบดีกว่า ผมไม่อยากตอบแทนท่าน คงไม่จริง

สำหรับเนื้อหาญัตติที่มีการระบุถึงการที่นายทักษิณชักนำนางสาวแพทองธารนั้น นายวิโรจน์ ย้ำว่า หากเป็นไปตามญัตติก็ต้องพูด เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ เพื่อตรวจสอบรัฐบาล ยืนยันว่า ต้องพูดได้ แต่พูดในกรอบว่า มีการชักใย รับรองว่า ไม่มีการที่อยู่ดีๆ จะไปพูดถึงนายทักษิณเรื่องอื่น

ส่วนกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีการเตือนให้ระวังการถูกฟ้องร้องนั้น นายวิโรจน์ มองว่า เป็นหน้าที่ของ สส.อยู่แล้ว อะไรที่เป็นการปกป้องผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ และสาธารณะ ที่เป็นข้อเท็จจริง จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการพุ่งเป้าไปที่นางสาวแพทองธารเป็นหลัก ส่วนการชักใยของนายทักษิณนั้น ก็คงอภิปรายให้เห็นความเชื่อมโยง คงไม่ได้พูดว่า "ทำไมถึงไม่กลับมาเลี้ยงหลาน"

ส่วนหมัดเด็ด ก็ต้องรอดู จะบอกก่อนได้อย่างไร ยืนยันว่า หมัดเด็ดเรามีหลายคน และเป็นประเด็นที่เราชี้ให้สังคมรู้ว่า คนๆ นี้ไม่มีความเหมาะสม ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ ที่จะเป็นนายกฯ ความประพฤติที่ผ่านมา พฤติกรรมที่กำลังทำอยู่ ล้วนเอาเปรียบสังคม ประชาชน ประเทศชาติ และไม่อาจทำให้ประเทศพัฒนาต่อไปได้ เรียกว่าลืมคำมั่นที่ให้ไว้ต่อรัฐสภาหมดสิ้นแล้ว 

ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านอาจจะไม่ได้วันอภิปรายถึง 5 วันนั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยเคยให้เหตุผลว่าควรได้เวลาในการอภิปรายมากเพียงพอ แต่พอมาเป็นรัฐบาล ก็ลืมสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้หมด ก็ไม่เป็นไร ในเมื่อเวลาน้อย ก็สอยตัวหลักเลย ตนว่าจี๊ดกว่า พร้อมหันมาถามผู้สื่อข่าวว่า "คิดว่าชั้น 14 จี๊ดกว่าหรือไม่"

นายวิโรจน์ ย้ำว่า สิ่งที่สำคัญกว่า คือทุกคนตั้งใจรับฟัง จับประเด็นไฮไลต์ และเทียบเคียงกับการชี้แจงของนายกรัฐมนตรี ว่าตอบสมเหตุสมผล หรือไม่ ไม่ต้องไปสนใจลูกสมุน