วันที่ 27 ก.พ.68 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ฝนตกหนักและการดำเนินการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เขตลงพื้นที่แก้ปัญหาการทิ้งไขมันลงในท่อระบายน้ำ เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ กทม.เตรียมรับมือน้ำท่วม จึงสั่งการให้ตรวจสอบทั้งหมด ปัจจุบันใน กทม.มีสถานประกอบการที่ขออนุญาตประกอบกิจการอาหารและสะสมอาหารประมาณ 20,000 ราย จึงให้เขตไปตรวจว่าสถานประกอบการเหล่านี้มีการปล่อยไขมันลงท่อระบายน้ำหรือไม่ หากพบว่ากระทำความผิดก็ให้บังคับใช้มาตรการสูงสุด ยกตัวอย่างเช่นวันก่อนไปตรวจในซอยสุขุมวิท 5 ก็ให้ปิดกิจการไป 3 วันเพื่อปรับปรุง จำนวน 2 ร้าน ส่วนที่เหลือออกใบเตือน ซึ่งตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่เร่งรัด คือการห้ามปล่อยไขมันลงท่อระบายน้ำในช่วง 2 เดือนนี้ สั่งการลุยทุกจุด รวมทั้งพวกปล่อยน้ำเสียลงคูคลองด้วยเพื่อเป็นการเตรียมรับน้ำท่วมและยังเป็นการจัดระเบียบเรื่องความสะอาดของบ้านเมืองด้วย

นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการจัดเก็บค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ซึ่งคาดว่าจะบังคับใช้ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องของการคัดแยกขยะ ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย เพราะปัจจุบัน เรานำขยะเปียกและขยะแห้งมารวมกัน ทำให้ขยะเกิดกลิ่นเหม็นเน่าและไม่สามารถนำสิ่งที่มีอยู่ไปรีไซเคิลได้ โดยปีที่ผ่านมาเราได้เริ่มโครงการไม่เทรวมกับห้างสรรพสินค้า พบว่าขยะลดลง 10-12% ปีนี้ ได้มีการเตรียมตัวในฝั่งของกทม.ให้พร้อม ว่าจะมีการลงทะเบียนอย่างไร จะช่วยประชาชนอย่างไรในการแยกขยะให้ง่ายขึ้น และการจัดเก็บขยะอย่างไรให้ประชาชนไม่บ่น ซึ่งได้มีการจัดประชุมทุกสัปดาห์ คาดว่าจะพร้อมในช่วงเดือนตุลาคม

ส่วนรถขยะที่ใช้ในการจัดเก็บเศษอาหารนั้น ปัจจุบันรถขยะจะมีช่องสำหรับแยกเศษอาหารด้วย ทั้งนี้จะมีการจัดรถเวียนให้ถี่ขึ้น ซึ่งแต่ละเขตก็จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ปัจจุบันข้อมูลช่วงกลางเดือน ก.พ.68 พบว่ามีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการบ้านนี้ไม่เทรวมแล้ว 40,000-50,000 ราย