วันที่ 26 ก.พ.68 ที่ สภ.บางศรีเมือง พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง, พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง , พ.ต.ท.พงค์นเรศ ศิริเสถียร สว.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายอณุภา หรือเอิร์ท อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุ อยู่หมู่ที่ 1 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จับกุมตัวได้ที่ ริมทางสาธารณะชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง หมู่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนบุรี สืบเนื่องจากวันที่ 2 ก.พ.68 นายอณุภา เข้าไปขโมยกล่องพัสดุสินค้า (หมูหยอง) ราคา 390 บาท ที่วางไว้อยู่ที่โต๊ะวางพัสดุใต้คอนโดแห่งหนึ่ง และนายอณุภา ได้เดินอ้อมตึกเข้าไปขโมยกระปุกออมสิน ที่มีเงินอยู่ภายในจำนวน 3,000 บาท หลังจากนั้นนายอณุภา ได้เดินย้อนกลับไปที่ลานจอดรถใต้ตึกและขโมยรถจักรยานก่อนถีบหนีออกไป ซึ่งหลังจากที่จับกุมตัวนายอณุภา ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผล พบว่านายอณุภา ได้เข้าไปก่อเหตุขโมยเครื่องเลื่อยไฟฟ้าและเครื่องเชื่อมไฟฟ้า ในวันที่ 10 ก.พ.68 ที่บริเวณซอยวัดเฉลิมพระเกียรติ 7 หมู่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และนำของไปจำนำในเวลาต่อมา ซึ่งนายอณุภา รับสารภาพที่ทำไปเพราะตกงาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาคือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพ วันที่ 2 ก.พ.68 ช่วงเวลากลางคืน (กล้องวงจรปิดเวลาไม่ตรง) จับภาพนายอณุภา ยืนอยู่ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ พร้อมกับตะกร้า 1 ใบ หลังจากนั้นนายอณุภา ได้เดินตรงเข้ามาที่บริเวณใต้ตึกดังกล่าว ก่อนที่จะเดินเข้ามาที่โต๊ะวางพัสดุและค้นหาสิ่งของ และหยิบกล่องพัสดุไปจำนวน 1 กล่อง และนายอณุภา ได้เดินอ้อมหลังตึกเข้าไปหยิบกระปุกออมสิน ก่อนจะเดินออกมาไปลานจอดรถ และขโมยจักรยานถีบออกไปอย่างรวดเร็ว (ส่วนเหตุการณ์วันที่ 10 ก.พ.68 ไม่มีกล้องวงจรปิด)
จากการสอบถามนายอณุภา กล่าวว่า ตนตกงานไม่มีงานทำ และไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจเดินขโมยของไปเรื่อยๆ ที่ตนเข้าไปขโมยของภายในตึกได้แค่กล่องพัสดุและกระปุกออมสิน ส่วนก่อเหตุครั้งที่สองคนละที่ ตนเข้าไปขโมยเครื่องเชื่อมเหล็ก ที่ตน ก่อเหตุไปเพราะว่าหาเงินไม่ได้ ตกงาน และยังหางานใหม่ไม่ได้ ตนพยายามทุกทางแล้ว เพราะตนยังมีคดีเก่า ทำให้ไม่สามารถสมัครงานใหม่ได้ไม่มีใครรับเข้าทำงาน ซึ่งคดีเก่าของตนเคยก่อเหตุร่วมกันกับเพื่อนที่เป็นเด็กช่างเก่าเป็นคู่อริกันและเข้าไปตบทรัพย์เขา ที่ตนทำไปเพราะความจำเป็น ตอนนี้พ่อแม่รู้เรื่องแล้ว แต่ตนไม่ได้อยู่อาศัยกับพ่อแม่ เพราะแยกตัวออกมาอยู่ห้องเช่าคนเดียว
ส่วนทางด้าน พ.ต.ต. พงค์นเรศ กล่าวว่า จากการจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวพฤติกรรมคือเข้าไปขโมยของที่ใต้ตึกของคอนโดแห่งหนึ่ง ก่อเหตุโดยการเดินเข้ามาคนเดียวและเข้ามาหยิบกล่องพัสดุไป และมีการดูราดราวก่อนก่อเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีและตรวจสอบพบว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติคดีเก่าจำนวน 6 คดี คือครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ 1 คดี , ร่วมกันปล้นทรัพย์ 3 คดี , ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน 2 คดี และเสพยาเสพติด 1 คดี แต่ล่าสุดที่จับกุมตัวผู้ต้องหามาตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน