ตชด.ภ.2 รวบเอเยนต์ยาบ้า พร้อมของกลางเฉียดแสนเม็ด สารภาพสิ้นได้ค่าจ้างเป็นยาบ้าครั้งละ 1,000 เม็ด ขณะที่เจ้าหน้าที่เร่งขยายผลจับกุมผู้ค้ารายใหญ่หลังพบลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายที่ไทยครั้งละเกือบล้านเม็ด 

 

วันที่ 26 ก.พ.2568 เวลา 14.00 น.พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 สนธิกำลังร่วม สำนักงาน ป.ป.ส.ภ.4 ,ตำรวจท่องเที่ยว,เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการข่าวยาเสพติด นปส.ขกท.ศปก.ทบ., และ สภ.หนองซอน กระจายกำลังจับกุมกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่พร้อมกัน 2 จุดจุดแรกที่ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 12 เส้นทางขอนแก่น-ยางตลาด ต.โพนทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม และ บริเวณบ้านเลขที่ 91 ถ.กุดยางสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.กาฬสินธุุ์  ได้ร่วมกันจับกุมนายอัษฎาหรือตัส นั้นต้อย อายุ 24 ปี   อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.5 ต.หนองกุง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์,นายธนากรหรือตูม ฆารบุรมย์ อายุ 21 ปี   ชาวบ้าน ม.4  ต. หลุบ อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ ,นายวรวิทย์หรือหมู ฆารบุรมย์ อายุ 18 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.10 ถนนกุดยางสามัคคี อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางยาบ้า  84,037 เม็ด, รถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิแอสทาส สีเทา หมายเลขทะเบียน กว-5608  พิษณุโลก และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ก่อนควบคมตัวมาสอบสวน ที่ บก.ตชด.ภ.2 จ.ขอนแก่น

โดย พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผบก.ตชด.ภาค 2 กล่าวว่า  ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฎิบัติการพิเศษ บก.ตชด.ภ.2 ได้ทําการสืบสวน และวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า มีกลุ่มขบวนการลักลอบลําเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ชายแดนภาคอีสาน จะทำการลักลอบนำเข้าและกระจายส่งให้กับลูกค้าพื้นที่ภาคอีสานตอนกลาง จนกระทั่งสายลับได้แจ้งยืนยันว่าจะมีการลักลอบลําเลียงยาเสพติด เข้ามาอีกครั้งโดยจะนำส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.มหาสารคามและกาฬสินธุ์  กำลังเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่เฝ้าจุดสังเกตการณ์ตามเส้นทางที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งพบรถยนต์เก๋งมิสซูบิชิ ลักษณะตรงกับที่สายลับแจ้ง ขับเข้ามาบนถนนหมายเลข 12  เส้นทางขอนแก่น-ยางตลาด มุ่งหน้าผ่าน อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม - อ.ยางตลาด มุ่งหน้าสู่ จ.มหาสารคาม

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงขับติดตามเพื่อสังเกตุพฤติกรรมและตรวจสอบซ้ำข้อมูล จนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดอยู่ริมถนน ก่อนถึงจุดกลับรถหน้าสำนกงานเทศบาลตำบลโพนทอง  เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอทําการตรวจค้นรถคันดังกล่าวตามยุทธวิธี แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้มีพฤติกรรมเคลื่อนที่จะหลบหนีโดยเจตนาไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถยนต์ ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พยายามหยุดยั้งรถเป้าหมายคันดังกล่าวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดรถให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นและอาจเกิด อันตรายต่อเจ้าหน้าที่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทําการใช้อุปกรณ์ในการหยุดรถและอาวุธปืนยิงสกัดยับยั้งให้รถยนต์ หยุดตามหลักยุทธวิธีเนื่องจากไม่สามารถใช้อุปกรณ์หยุดรถ (stop stick) จนรถยนต์คันดังกล่าว ไม่สามารถที่จะขับเคลื่อนไปต่อไปได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเข้าควบคุมรถและพบผู้ต้องหาทั้งหมดอยู่ในรถ"

พร้อมกันนี้ ผบก.ตชด.ภ.2 กล่าวต่ออีกว่า  เบื้องต้นตรวจค้นภายในรถ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย  จึงได้ขออนุญาตตรวจค้นตัวบุคคล  ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า 30  เม็ด บรรจุอยู่ในขวดยาอม  บริเวณกระเป๋ากางเกงด้านหน้าข้างซ้ายที่ นายอัษฎา สวมใส่อยู่ และตรวจค้นพบยาบ้า  4 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใส  บริเวณกระเป๋าเสื้อ ข้างซ้ายที่ นายธนากร สวมใส่อยู่ และยาบ้า 3  เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใส แบบกดปิด- ดึงเปิดอยู่ใน กระเป๋ากางเกงด้านหลังข้างซ้ายที่ นายวรวิทย์ สวมใส่อยู่ซึ่งผู้ต้องหาให้การอีกว่ายังมียาบ้า อีกจํานวนหนึ่ง อยู่ในยางรถยนต์ภายในบ้านพักจึงไปทำการตรวจสอบพบยาบ้าอีก 84,000 เม็ด   ซุกซ่อนอยู่ใน ยางรถยนต์

ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวรับนายสุเทพหรือต่าย  จํานวน 900,000 เม็ด โดยที่นายสุเทพ จะให้ผู้ต้องหาทั้งหมดไปส่งยาบ้าตามจุดต่างๆ ให้กับลูกค้า โดยจะได้รับค่าจ้างเป็นยาบ้าครั้งละ 1,000 เม็ด ทั้งนี้ก่อนถูกจับกุมได้เตรียมที่จะนำยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด ส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณหน้าโรงเรียนกีฬา จ.ขอนแก่นจนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าวอย่างไรก็ตามภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมทั้งจะมีการสืบสวนสอบสวนผู้ร่วมชบวนการ โดยเฉพาะนายสุเทพ เอเยนต์ยาบ้ารายใหญ่ในพื้นที่  ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองซอน จ.มหาสารคามเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป