วันที่ 26 ก.พ.68  เวลา 14.00 น.พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สอบสวนกลาง, ทีมสัตว์แพทย์ สบอ.2สำนักบริหารพื้นที่ ที่ 2 ศรีราชา , เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองเครือหวาย ร่วมตรวจพิสูจน์ซากลูกเสือโคร่ง อายุประมาณ 6-8 เดือน ไม่สามารถระบถเพศได้ หลังจากลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าว แหกกรงกระโดดลงจากรถ ระหว่างนำตัวมาเก็บรักษาไว้ ที่พักของกลาง ที่สภ.เมืองจันทบุรี จนถูกรถที่ตามหลังมาพุ่งชนจนเสียชีวิต

ซึ่งผลจากการตรวจพิสูจน์เบื้องต้น ซากลูกเสือ พบขาหลังซ้ายหัก ลำไส้หลุด มีอาการบอบช้ำ หวัยวะภายในฉีกขาด ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกเสือตาย แต่ยังไม่ยืนยันได้ว่าเปิดจากการถูกชน หรือเหยียบ

ด้านพ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว. จันทบุรี เปิดเผยว่า พฤติการณ์จับกุม สืบเนื่องจากคืนที่ผ่านมา กำลังตำรวจสอบสวนกลางได้สืบสวนทราบว่า มีการลักลอบขนย้ายลูกเสือโคร่ง มาเลี้ยงไว้ที่บ้านเลขที่ 777 หมู่ 11 ต.คลองนารารณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี 

 

จากการเข้าตรวจค้นพบ ลูกเสือโคร่งตัวดังกล่าวถูกเลี้ยงไว้ในบ้าน และพบมีชายชาวจีน ชื่อ MR. AN  YI (อา อี) อาศัยรับว่าเป็นผู้ดูแลลูกเสือโคร่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา ในความผิดฐาน "ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง(เสือโคร่ง) โดยไม่ได้รับอนุญาตจากตามมาตรา 19 และ มีสัตว์ป่าควบคุมไว้ในความครอบครอง
โดยไม่ได้แจ้งความครอบครองตามที่กฎหมายกำหนด ตามมาตรา 18 พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจพบภายในบ้าน ลูกเสือโคร่งจำนวน 1 ตัวและสิงโตเพศผู้ อายุ 3 ปี ชื่อ
 “ซิมบ้า” จำนวน 1 ตัว  โดยในส่วนของ สิงโต ได้อายัดไว้ที่บ้านที่เกิดเหตุ ระหว่างรอเจ้าหน้าที่อุทยานมาเคลื่อนย้าย เนื่องจากสิงโตมีขนาดตัวที่ใหญ่ ส่วนลูกเสือโคร่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำใส่กรงเคลื่อนย้ายมาเก็บรักษาที่ สภ.เมือง ระหว่างทาง ลูกเสือโคร่งได้หลุดกรงกระโดดหนีลงจากรถ ทำให้ถูกรถที่ขับตามหลังมาชนจนทำให้ลูกเสือเสียชีวิต

สำหรับนแนวทางการสืบสวนที่มาของลูกเสือโคร่ง สืบเนื่องตำรวจ กก.5 บก.ปทส. ได้รับร้องเรียนว่ามีชาวต่างชาตินำลูกเสือโคร่งมาอุ้มถ่ายภาพ และที่มีการโพสลงเฟซบุ๊ก จึงได้รวบรวมพยานขอหมายค้น  ผลการตรวจค้นทราบว่า ลูกเสือโคร่ง

ผู้ที่ดูอ้างว่า เพื่อนที่รู้จักกันเป็นชาวเวียดนาม เคยเอามาเลี้ยงชั่วคราวไว้ที่ โรงแรมหนึ่งในกรุงเทพฯ และได้นำมาฝากเลี้ยงไว้กับกลุ่มคนจีนที่มาเช่าบ้านอยู่ใน จ. จันทบุรี
ก่อนตำรวจขยายผล จนติดตามจับกุมได้ถึงที่อยู่ของลูกเสือโคร่งที่บ้านหลังดังกล่าว

 

ขณะที่จากการตรวจสอบสิงโต ของทางทีมสัตว์แพทย์ พบว่ามีการฝังไมโครชิบ ถูกต้องตรงกับใบขออนุญาตรับเลี้ยง แต่ยังมีความผิดเนื่องจากไม่ตรงจกับ สถานที่ที่แจ้งรับเลี้ยงจริง โดยหลังจากนี้ จะได้มีการติดให้ทางบริษัทเจ้าของสิงโต แสดงเอกสารรับกลับไปดูแล ส่วนที่ชาวจีนกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าสัตว์ข้ามชาติหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล