บริษัทงานจ้างสำรวจ 5 บริษัท ประชุมกลุ่มย่อยเวทีแรก ครั้งที่ 2 เตรียมผุดโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งที่กาญจนบุรี ที่ประชุม เห็นด้วยกับโครงการ เน้น ต้องอย่าให้คนต้นน้ำขาดน้ำ
วันที่ 25 ก.พ.68 ที่อาคารเอนกประสงค์ของทึ่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง ตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี นายอธิพัฒน์ ธนาไพศาลวรกุล ปลัดอำเภอ ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอ ให้เป็นประธานเปิดการประชุมกลุ่มย่อย โดยมีนายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง ให้การต้อนรับในโอกาสเปิดการประชุม นายอธิพัฒน์ ธนาไพศาลวรกุล ปลัดอำเภอบ่อพลอย กล่าวว่า ตนเองได้อยู่มาหลายจังหวัด ทั้งจังหวัดอุดรธานี จังหวัดนครราชสีมา พบเจอปัญหาภัยแล้งมาตลอด ก่อนย้ายไปอยู่กรมการปกครอง ก่อนย้ายมาเป็นปลัดอำเภอบ่อพลอย ก็ได้ศึกษาปัญหาเรื่องนี้มาบ้าง และหากโครงการนี้ดำเนินการแล้วเสร็จ ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง
โอกาสนี้ นายปรัชญา พงษ์สิงห์จันทร์ ตำแหน่งผู้อำนวยการส่วน (วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ) ส่วนออกแบบระบบชลประทาน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ เพื่อนำน้ำไปใช้ในพื้นที่แห้งแล้งของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งทางกรมชลประทานได้ว่าจ้างทั้ง 5 บริษัทที่จัดทำการออกแบบสำรวจเส้นทางการก่อสร้างโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ ไปยังพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอบ่อพลอย อำเภอหนองปรือบางส่วน อำเภอห้วยกระเจา และอำเภอเลาขวัญ ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งมานาน ทำให้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเกือบ 5 แสนไร่ รวมถึงน้ำอุปโภค-บริโภคส่วนรายเอียดต่างๆ ของโครงการก่อสร้าง การเวนคืนที่ดินจะให้ทางวิศวกรรมของบริษัทกับผู้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้
นายชลเทธ มงคลศิลป์ วิศวกรของโครการฯ พร้อมนายประยุทธ์ เจริญกุล กล่าวว่า ซึ่งการประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 2 เวทีแรก ในพื้นที่ตำบลหลุมรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ ก่อนไปสู่อำเภอต่างๆ โดยในที่ประชุมได้มีการซักถามถึงโครงการฯ จากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ท่าน โดยส่วนใหญ่ ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้โครงการฯ ก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาความแห้งแล้ง แต่ประชาชนในพื้นที่ต้องการเมื่อก่อสร้างแล้ว ประชาชนจะได้น้ำผ่านไปยังปลายทางจะต้องมีน้ำใช้ด้วย ไม่ใช่แค่ผ่านไปเท่านั้น แต่คนต้นน้ำจะขาดแคลนน้ำในภายหลัง ยกตัวอย่างในช่วงการก่อสร้างผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทรฯ ใหม่ๆ ประชาชนให้ความร่วมมือ สุดท้ายประชาชนกับไม่มีไฟฟ้าใช้ และน้ำอุปโภค-บริโภคจนถึงเวลานี้ คนหลุมรังไม่ต้องการให้เกิดเรื่องเช่นนี้ ส่วนเรื่องการเวนคืนที่ดิน มีทั้งที่ดินที่อยู่ในดารครอบครองของรัฐ เช่น ที่ดิน สปก.ที่ดิน ภบท.5 มีอยู่จำนวนมากที่อยู่ในโครงการฯ และที่ดินที่มึเอกสารสิทธิ์ด้วยเช่นกัน ทางกรมชลประทาน ก็มีการเวนคืนให้ตามสัดส่วนของที่ดิน
ด้านนายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง กล่าวว่า โครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ เป็นเรื่องที่ดี ปัญหาภัยแล้งจะหมดไป แต่ต้องดูอ่างเก็บน้ำตัวเขื่อนฯ รองรับเพียงพอที่จะส่งน้ำมาในโครงการฯ นี้หรือไม่ ไม่เช่นนั้น อาจจะตายตั้งแต่ยกแรก ปัจจุบันเมื่อฝนตกหนักน้ำท่วม พอถึงหน้าแล้ง ก็แล้งขาดน้ำเกษตรกรส่วนใหญ่ขาดน้ำถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ปลูกอ้อย ปลูกข้าว เพราะการทำเกษตร ปัญหาหลักคือ น้ำ เมื่อหน่วยงานทุกหน่วยเล็งเห็นความสำคัญตามที่ท้องถิ่นได้เสนอไป จึงได้ให้มีการสำรวจเส้นทางการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ มาในพื้นที่แห้งแล้ง โดยอ่างเก็บน้ำลำอีซู มีแหล่งกักเก็บน้ำ เมื่อผันน้ำมาจากเขื่อนศรีนครินทร์ฯ ก่อนส่งผ่านไปยังอำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ ซึ่งประชาชนเรียกขานว่า แดนอีสาน นั้นเป็นเรื่องที่ดี
นายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง ยังกล่าวต่ออีกกว่า ในพื้นที่ยังมีที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์บ้าง ไม่มีเอกสารสิทธิ์บ้าง เมื่อชุดสำรวจลงพื้นที่แล้วให้รับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนกลับไปแจ้งกับทางกรมชลประทานให้ได้ทราบอย่างแท้จริง ปัญหาใหญ่ยังผ่านได้ แต่อย่าข้ามปัญหาเล็กๆ เหล่านี้ ฝากให้แก้กับทุกส่วนให้เท่าเทียมกันด้วย