จับกุมร้านบุหรี่ไฟฟ้าแอบขายในร้านสะดวกซื้อแถมจะเอาลูกเขยมารับผิดแทน
นายเศรษฐา เณรสุวรรณ นายอำเภอเมืองมหาสารคาม ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัดมหาสารคาม สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม เข้าจับกุมร้านค้าลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ใกล้ๆสำนักงาน อบต.ท่าสองคอน อ.เมือง ภายในร้านขายขายของชำ ภายในร้านตั้งขายบุหรี่ไฟฟ้าไว้ที่เคาน์เตอร์ เจ้าหน้าที่เข้าไปขอซื้อ ในราคา 280 บาท จึงเข้าไปตรวจสอบพบบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ทั้งหมด 393 ชิ้น จากการสอบถามเจ้าของร้าน นางอรดี(สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี พร้อมเป็นผู้ครอบครอง จึงได้ทำการตรวจค้น พบ เครื่องแบบเปลี่ยนหัว 3 ชิ้น เครื่องดูดบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 147 กล่อง หัวพอตบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 243 กล่อง ช่วงระหว่างสอบถามทางด้านนางอรดี ได้เดินหนีไปแล้วให้ทางลูกเขยมาเป็นคนรับผิดแทน แต่ทาง ผกก.จึงได้เรียกมาพูดคุยแล้วก็ได้ว่ากล่าวตักเตือน ไม่ให้ทางนางอรดี ทำพฤติกรรมแบบนี้เพราะมีหลักฐานทุกอย่างว่านางอรดีเป็นคนขายและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า
นางอรดี ให้การ รับว่า บุหรี่ไฟฟ้าของกลางดังกล่าวเป็นของตนจริงได้นำเข้ามาขายเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว โดยแต่ละชิ้นขายได้กำไรนิดหน่อยแค่ชิ้นละ 10 บาท อย่างแบบใช้แล้วทิ้งขายชิ้นละ 280 บาท หัวพอตขาย 100 บาท ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ทราบว่าการครอบครองบุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็น ความผิดตามกฎหมาย จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายเศรษฐา เณรสุวรรณ นายอำเภอเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าทางด้าน ผวจ.มหาสารคามจึงได้สั่งการให้ จับกุมการลักลอบร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้ให้ดำเนินการออกจับกุมทันที เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยผู้ที่ขายบุหรี่ไฟฟ้า จะมีความผิดตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ