คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ไฟเขียวเพิ่มยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาหาข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้ดูแล ยันยึดหลักสร้างความเป็นธรรมทั้งผู้บริโภค และโรงพยาบาลเอกชน เผยยังได้ถอดน้ำตาลทราย เยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ ออกจากบัญชีควบคุมด้วย เตรียมเสนอ ครม. สัปดาห์หน้า นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2562 ว่า ได้พิจารณาทบทวนรายการสินค้าและบริการประจำปี 2562 โดยในส่วนของบัญชีสินค้าควบคุม มีมติให้เพิ่มสินค้า 1 รายการ คือ ยาและเวชภัณฑ์ เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม และถอดสินค้า 4 รายการออกจากบัญชีสินค้าควบคุม ได้แก่ น้ำตาลทราย เยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ สาเหตุที่ถอดน้ำตาลทรายออก เนื่องจากปัจจุบันมีการปรับโครงสร้างราคาน้ำตาลทรายให้ลอยตัวตามกลไกตลาด อีกทั้งสถานการณ์ขณะนี้ ราคาน้ำมันทรายปรับลดลงมามากเหลือกก.ละ 10 บาท จากเดิมที่เคยขึ้นไปถึงกก.ละ 22 บาท ทำให้ไม่จำเป็นต้องเข้ามาอยู่ในบัญชีควบคุม ส่วนเยื่อกระดาษ เม็ดพลาสติก และแบตเตอรี่รถยนต์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะมีผู้ผลิตสินค้าหลายราย มีการแข่งขัน ไม่มีปัญหาทางด้านกลไกราคา จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในบัญชีสินค้าควบคุม ส่งผลให้บัญชีสินค้าควบคุมประจำปี 2562 จะเหลือ 46 รายการ จากเดิมมี 49 รายการ ส่วนบัญชีบริการควบคุม ที่ประชุมมีมติให้เพิ่มบริการทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบัญชีบริการควบคุม ทำให้จากเดิมที่มีรายการในบัญชีบริการควบคุม 5 รายการ เพิ่มเป็น 6 รายการ ส่งผลให้จะมีบัญชีสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 2562 ทั้งหมด 52 รายการ ลดลงจากเดิม 54 รายการ ซึ่งจะนำผลที่ประชุมครั้งนี้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในสัปดาห์หน้า นายสนธิรัตน์กล่าวว่า ในส่วนมาตรการดูแลสินค้ายาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ ที่ประชุมได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข สมาคมประกันภัย ตัวแทนโรงพยาบาลเอกชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะทำหน้าที่ในการศึกษาและพิจารณาหาข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการที่จะเข้ามาดูแลสินค้ายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้บริโภคและโรงพยาบาลเอกชน “ยังตอบไม่ได้ว่ามาตรการที่จะทำออกมาจะทำให้ราคายาและเวชภัณฑ์ รวมถึงบริการทางการแพทย์ ราคาลดลงหรือไม่ เพราะต้องขึ้นอยู่กับข้อสรุปของคณะอนุกรรมการที่ตั้งขึ้น แต่ยืนยันว่าทุกอย่างจะดำเนินการเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่าย และถือเป็นครั้งแรกที่กระทรวงพาณิชย์ยกระดับนำรายการสินค้ายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าและบริการควบคุม เพื่อดูแลอย่างจริงจัง”นายสนธิรัตน์กล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ต้องนำรายการยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้าเป็นบัญชีสินค้าและบริการควบคุม เนื่องจากที่ผ่านมา มีประชาชนร้องเรียนถึงค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนคิดราคาสูงเกินความเป็นจริง ทำให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไขปัญหา เบื้องต้นอาจมีการกำหนดส่วนต่างกำไรว่าไม่ควรเกินกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น รวมถึงค่าบริการทางการแพทย์ เช่น ค่าเอกซ์เรย์ ค่าห้องพักฟื้น ที่จะมีการเข้าไปดูแลราคาให้เหมาะสมด้วย