วันที่ 25 ก.พ.2568 ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ว่า ตัวญัตติไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าน่าจะพร้อมยื่นในวันดังกล่าว ซึ่งขอให้รอดูทั้งตัวญัตติ รายชื่อรัฐมนตรี ในวันพฤหัสบดีนี้ ตนบอกได้แค่ว่าถ้าเปิดรายชื่อออกมา ก็จะเห็นถึงความเข้มข้นร้อนแรง ในการอภิปรายมากกว่าทุกครั้งแน่นอน

เมื่อถามว่าคนในพรรคร่วมรัฐบาล ส่งข้อมูลมาให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็มีมาเรื่อยๆ ทั้งส่วนที่เป็นระบบราชการประจำ รวมถึงฝั่งการเมือง ซึ่งเป็นข้อมูลหลายเรื่อง ที่แสดงออกถึงความขาดคุณสมบัติของรัฐมนตรี การทุจริตคอรัปชั่น รวมถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน คอลล์เซ็นเตอร์ และปัญหาอื่นที่เห็นตามหน้าข่าว

เมื่อถามว่าส่วนราชการได้มีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับที่ดินความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ หัวเราะ พร้อมกล่าวว่า “ถ้าบอกประเด็นนี้ก็น่าจะรู้ได้ทันทีว่ามีประเด็นไหนบ้าง”

“ตอนนี้วางตัวผู้อภิปรายไว้หลายคน ซึ่งในส่วนของพรรคประชาชน มีคนที่เข้าเนื้อเข้าหนังหลัก 10 คนขึ้นไปแน่นอน แต่ยังไม่อยากบอกรายละเอียดขนาดนั้น เราต้องปกป้องคนอภิปรายด้วย”นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ถ้าเปิดรายชื่อรัฐมนตรีออกมาแล้ว จะทำให้เกิดการล็อบบี้ซื้อเสียงหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนเลือกอภิปราย ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐมนตรีจริงๆ ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาล การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง ย่อมต้องส่งแรงกระเพื่อมในพรรคร่วมรัฐบาลเอง ซึ่งพรรคประชาชนก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่สิ่งที่ประชาชนอยากเห็น คือ การตอบชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาของรัฐมนตรีในสภาฯ มากกว่า ส่วนเกมการเมืองในฝั่งพรรคร่วมจะเป็นอย่างไร พวกเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

เมื่อถามว่ารัฐบาลหลายคนออกมาพูดว่าเร็วเกินไปที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าคิดว่าเร็วไปตนก็คิดว่ารัฐมนตรี หรือนายกรัฐมนตรีอาจจะยังไม่พร้อมทำหน้าที่ เพราะผ่านเวลามาหลายเดือนแล้ว พรรคเพื่อไทยก็ขึ้นมาบริหารครึ่งเทอมแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวนายกรัฐมนตรีจะสามารถมาตอบชี้แจงในสภาฯ ได้ด้วยตัวเอง ตนไม่อยากให้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน

เมื่อถามว่ามองการทำงานของนายกรัฐมนตรีอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลายอย่างเราไม่เห็นความชัดเจนจากตัวนายกฯ มีการโยนกันไปโยนกันมาระหว่างพรรคร่วมด้วยกันเอง ซึ่งประชาชนไม่อยากเห็น เราอยากเห็นนายกฯ ที่กล้าออกมาใช้อำนาจที่ตัวเองมี เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน

เมื่อถามถึงรอยร้าวรัฐบาลและท่าทีการตอบคำถามของนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตัวนายกฯ มีอำนาจในการยุบสภาฯ ดังนั้นการควบคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง นายกฯ ย่อมมีอำนาจเต็ม ในการควบคุมเสียงของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่สถานะตอนนี้ นายกฯ ก็ไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจตัวจริง เลยไม่สามารถควบคุมเสียงในรัฐบาลได้ รอยร้าวที่เกิดขึ้นเกิดจากการต่อรองผลประโยชน์ การปัดความรับผิดชอบในพรรคร่วม

เมื่อถามย้ำว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตัวจริงใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราก็เห็นกันอยู่แล้วว่าใครเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงในการบริหารประเทศในปัจจุบัน ซึ่งเวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเป็นเวทีที่ทำให้นายกฯ ได้พิสูจน์ตัวเอง ถ้ามาตอบชี้แจงด้วยตัวเอง ก็จะมีภาวะความเป็นผู้นำมากขึ้นในสายตาประชาชน

เมื่อถามว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะนำไปสู่การปรับคณะรัฐมนตรีได้มากน้อยแค่ไหน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นไปได้สูงที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่ละครั้ง จะเกิดการต่อรองในพรรคร่วม อาจไม่ต้องถึงขั้นโหวตไม่ไว้วางใจ แต่จำนวนเสียงที่แตกต่างกันของแต่ละรัฐมนตรี ก็มีความหมาย พรรคประชาชนเน้นที่ประเด็นเนื้อหาส่วนเกมการเมืองก็เป็นเรื่องของพรรคร่วม

เมื่อถามถึงการที่ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเตด และแกนนำพรรคภูมิใจไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีนัดเคลียร์ใจกัน เพื่อสยบรอยร้าวในพรรคร่วม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ควรมีวาระที่จะมานั่งเคลียร์ใจกัน ถ้าถูกพรรคร่วมรัฐบาลตั้งใจที่จะผลักดัน นโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาให้สำเร็จ แต่กลายเป็นว่าสภาพการเมืองตอนนี้เป็นเพราะการจัดตั้งรัฐบาลแบบนี้มาตั้งแต่แรก ทำให้กลายเป็นการต่อรองผลประโยชน์เป็นเกมทางการเมือง จึงทำให้ไม่สามารถผลักดันนโยบายได้

“ผมว่าไปดูที่ผลโหวต ตัวเลขอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ดีกว่าจะเป็นคำตอบว่าเคลียร์กันได้หรือเคลียร์กันไม่ได้ มากกว่าการจัดดินเนอร์พรรคร่วมวันนี้” นายณัฐพงษ์กล่าว และขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยระหว่างฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลว่าจะใช้เวลาอภิปรายกี่วัน เราขอไป 5 วันอย่างน้อยควรจะได้ 4 วัน แต่เห็นรัฐบาลจะให้เราแค่ 2 วัน ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น โดยเราก็ได้เตรียมการไว้อยู่แล้ว