วันที่ 24 ก.พ. 68 เวลา 16.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิริธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอกปองพล  สุทธิเบญจกุล รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าว  กรณีคนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณหน้ามินิบิ๊กซี สาขาบันนังสตา ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อค่ำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ซึ่งออกปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 ราย แต่แรงระเบิดและสะเก็ดระเบิด กลับทำให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิต จำนวน 1 ราย คือ นายต่วนอิบรอเฮง หนิมิ  และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บอีก จำนวน 4 ราย 

รองโฆษก  กล่าวว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น  พลโทไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องและครอบครัวของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์  รวมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวด มาตรการรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง ที่มีประชาชนอยู่อาศัยและทำกิจกรรมต่างๆอย่างหนาแน่น

 

หลังเกิดเหตุได้มีเพจดังออกมานำเสนอข้อความบิดเบือนและพยายาม ชี้นำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าการเสียชีวิตของ นายต่วนอิบรอเฮง หนิมิ เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ  ซึ่งผู้โพสต์พยายามชี้นำบิดเบือนว่าการเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้จากการตรวจสอบกลับไม่พบว่าเพจดังกล่าวมีที่มาอย่างไรและไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลผู้โพสต์ได้ ซึ่งหากเป็นเพจที่น่าเชื่อถือแล้ว จะสามารถรู้ที่มาและผู้โพสต์ต้องแสดงตนเพื่อยืนยันความหนักแน่นของข้อมูลให้สาธารณะชนได้รับทราบ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอเรียนให้สาธารณะชนได้รับทราบว่าภายหลังเกิดเหตุระเบิดไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดใช้อาวุธในการยิงตอบโต้เลย   เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตเทศบาลและอยู่ในห้วงเวลาที่ประชาชนเดินทางสัญจรและจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาแน่น ส่วนประชาชนผู้เสียชีวิตได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุพอดีในเวลาที่เกิดระเบิด ทำให้สะเก็ดระเบิดถูกบริเวณไหปลาร้าด้านขวาส่วนล่างของต้นคอ และเข้าไปฝังอยู่ในปอด แต่ในขณะถูกสะเก็ดระเบิดผู้เสียชีวิตยังไม่รู้สึกตัว ว่าโดนสะเก็ดระเบิดเข้าสู่ร่างกาย จึงสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปได้ ประมาณ 150 เมตร จึงเริ่มรับรู้อาการผิดปกติและได้จอดรถจักรยานยนต์บริเวณริมทาง แล้วล้มตัวลงกับพื้นถนน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งบาดแผลจากการชันสูตรของแพทย์ สามารถ บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า เกิดจากสะเก็ดระเบิดของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งผลจากการเอ็กซเรย์พบว่ามีสะเก็ดระเบิดจากระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปฝังอยู่ในปอด ซึ่งลักษณะของบาดแผล และวัตถุที่ฝังอยู่ในร่างกาย ของผู้เสียชีวิต จะมีความแตกต่าง จากการถูกกระทำโดยกระสุนปืนชนิดต่างๆ อย่างสิ้นเชิง