หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์...*...
โหมโรงประโคมข่าวกันล่วงหน้า มาพักใหญ่ ว่าในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะได้มีโอกาสต้อนรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ มาเยือนในรอบ 19 ปีเพียงแต่การลงพื้นที่รอบนี้ “ทักษิณ” ได้พ่วงเอาตำแหน่ง “ที่ปรึกษาประธานอาเซียน” ติดตัว ใช้เป็นเหตุเป็นผลมาด้วย ...*...
โดย “ทักษิณ” ให้เหตุผลว่า เขาเองในฐานะที่ “ที่ปรึกษาประธานอาเซียน” ของ “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ให้ความสำคัญกับ ”สันติภาพ” ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งใจมาดูสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งอยากมาดูมารับฟังด้วยตัวเองว่าเป็นสถานการณ์เป็นอย่างไร “ผมมาสานงานที่ทำไว้เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เพราะการแก้ไขปัญหาใช้เวลานานมากยังไม่ยุติเสียที มันก็ควรจะยุติได้ในสมัยที่รัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลเพื่อไทยและลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี” ...*...
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า “ณ จุดวันนี้ ผมเข้าใจว่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เลยอยากมาฝากกับน้องๆ ว่าเราลองหยุดหายใจสักระยะ เรามัวอยู่กับเหตุการณ์ที่เคยมีมา 20 ปีแล้วให้กลับมาดูว่าเราจะเข้าถึงหรือแค่ไหนและเข้าใจมาคิดร่วมกันว่าจะทำให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่อย่างสันติสุข นั่นคือหลักการที่ผมมาที่นี่" แต่ถึงอย่างนั้น “ความหวัง” ที่จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อ “ทักษิณ” ขยับลงพื้นที่ อาจสวนทางกับความเป็นจริง เพราะอย่าลืมว่า ก่อนหน้าที่ คณะของ “ทักษิณ” จะบินลงสามจังหวัดชายแดนใต้ เกิดเหตุระเบิดขึ้นกลางดึกของวันที่ 22 ก.พ.68 ที่อ.บันนังสตา จ.ยะลา พอมาเช้าวันที่ 23 ก.พ.เกิดระเบิดที่รถกระบะของเจ้าหน้าที่ จอดอยู่ในเขตท่าอากาศยานนราธิวาส เหมือนกับเป็นการท้าทายการมาของ “ทักษิณ” อย่างจงใจ ...*...
สถานการณ์ไฟใต้จะซาลงหรือไม่ หลัง “ทักษิณ” ลงไปเยือนส่งสัญญาณสร้างสันติภาพ แต่ที่แน่ๆ เวลานี้ ดูเหมือน “ศึกการเมือง” ระหว่าง “สีแดง” ปะทะ “สีน้ำเงิน” กำลังเขม็งเกลียว มากขึ้นทุกขณะ โดยเฉพาะการปะทะผ่าน “สงครามตัวแทน” เมื่อล่าสุด “สว.สายน้ำเงิน” ประกาศตัวพร้อมเอาคืน ด้วยการเตรียม ยื่นถอดถอน “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม เพราะ “รับไม่ได้” กรณีที่รัฐมนตรี ตั้งข้อสังเกตจนอาจทำให้ “สว.” ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2567 เกิดความเสียหาย ว่ามากล่าวหาวุฒิสภาร้ายแรง เรื่องอั้งยี่ ซ่องโจร อาชญากรรม และภัยต่อความมั่นคง งานนี้ “สว.สีน้ำเงิน” ยังไม่จบเพียงแค่นี้ แต่เตรียม “อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ” ตั้งเป้าว่าจะถล่ม “รมต.ทวี” เป็นช็อตต่อไป ...*...
ทำไปทำมา “สงครามตัวแทน” ที่มีความขัดแย้งทางการเมืองเป็น “ชนวนเหตุ” ระหว่าง “ค่ายสีแดง” กับ “ค่ายสีน้ำเงิน” จะลุกลามบานปลาย กินวงกว้างหรือไม่ เพราะจากเดิม เรื่องการตรวจสอบที่ดินสนามกอล์ฟ ที่โคราช มี “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นเจ้าของ ก็ยืมมือ คนของ “พรรคกล้าธรรม” ลงพื้นที่ไปฉะกันมาแล้ว ยกแรก ต่อมา “ค่ายสีแดงสีแดง” เปิดเกมถล่ม “ขุมกำลัง” ของพรรคภูมิใจไทย เล็งไปที่ “สว.สีน้ำเงิน” เช่นนี้ แล้ว “รัฐบาลผสม” จะอยู่กันต่อไปอย่างไร หรืองานนี้ “ทักษิณ” กับ “อนุทิน” ต้องออกรอบตีกอล์ฟกระชับมิตร กันอีกสักที !...*...
ที่มา:พันแสง (24/02/68)