"พิชัย" หวัง ธปท.หั่นดอกเบี้ยช่วยกระตุ้น ศก.-จ่อหารือแบงก์ลดขั้นตอนแก้หนี้
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.68 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงคณะกรรมการบริหารของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) แนะนำธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยว่า การลดหรือไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในทุกประเทศจะกลัวเรื่องเงินเฟ้อ กลัวความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ แต่เงินเฟ้อของไทยอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาอย่างต่อเนื่อง หากอัตราดอกเบี้ยลงแล้วเพิ่มความร้อนแรงทางเศรษฐกิจขึ้นบ้าง ก็ถือเป็นจังหวะที่ดีกว่าปีที่แล้ว เพราะหลายอย่างเริ่มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งผู้ใช้เงิน ผู้กู้เงิน คนลงทุน ผมว่าทุกคนอยากเห็น 2 เรื่องคือ เรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่กำลังเฝ้าดูอยู่ และดอกเบี้ยจริงๆ ในกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะตอนนี้ผมคิดว่าหลายเรื่องเริ่มกระเตื้องขึ้นแล้ว ดังนั้นต้องกลับมาดูเรื่องเหล่านี้
ทั้งนี้ถ้าหากลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดต้องทำให้เกิดความยืดหยุ่นในการปล่อยสินเชื่อ เรื่องนี้ต้องนำมาพิจารณาด้วย เพราะในมุมมองของคนกู้ เมื่อก่อนอาจมีความเข้มงวด แต่ตอนนี้จะพอสามารถยืดหยุ่นได้หรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV ratio) เรื่องนี้พยายามพูดมาตลอด ส่วนตัวมองว่า ธปท.คงเข้าใจข้อมูลพวกนี้แล้วจะนำเข้าไปสู่การพิจารณาทั้งหมด
ขณะเดียวกันยังมีอีกเรื่องสำคัญคือ เวลาเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศผู้ส่งออกจะมีการพูดคุยกันเรื่องค่าของเงิน อย่างล่าสุดไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งญุี่ปุ่นมีค่าเงินแข็งเป็นเวลานานแล้วอ่อนค่าลง ทางการญี่ปุ่นบอกว่าค่าเงินอ่อนมีปัญหาเวลานำเข้า แต่ในฐานะที่เป็นประเทศส่งออกมองเห็นว่าประเทศเริ่มฟื้นขึ้น ดังนั้นหมายความว่า ญี่ปุ่นให้ความสำคัญเรื่องค่าเงิน
ขณะที่ประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้ส่งออกเช่นกัน ดังนั้นค่าเงินจะอ่อนแค่ไหนต้องดูเทียบกับประเทศคู่แข่ง อย่าไปดูแค่ 2-3 ปี ต้องดูย้อนหลังไปยาวๆ ซึ่งเห็นได้เลยว่าค่าเงินบาทยังแข็งอยู่ แต่ประเทศที่ค่าเงินอ่อนมีมาตรการทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ จึงเป็นเรื่องน่าคิด เพราะค่าของเงินเป็นผลลัพธ์ของมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย หรือมาตรการปล่อยสินเชื่อ โดยจะนำมาซึ่งขีดความสามารถในการแข่งขัน
"หวังว่าตอนนี้เวลามองอะไรจะไม่มองด้านเดียว เวลามองเรื่องเงินต้องมองว่า ใครเป็นเจ้าของเงิน ใครเป็นคนฝากเงิน ใครเป็นคนดูแลเงิน สถานบันการเงิน แล้วใครเป็นผู้ใช้เงิน ดังนั้นทำอย่างไรให้สมดุลและหมุนเวียนเหมาะสมกับสถานการณ์ จำเป็นต้องดูให้หมด อย่าดูแค่อันใดอันหนึ่งไม่ได้ ส่วนตัวเข้าใจว่าข้อมูล ธปท.น่าจะมีหมดแล้ว เพราะได้มีการพูดคุยกันและมีการบอกไปแล้ว แม้ว่าเรื่องแก้หนี้ก็ต้องเข้าใจว่า เวลาเป็นหนี้จำนวนมาก หลายล้านบัญชีการแก้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ดังนั้นบางคนยังไม่รู้ จึงจำเป็นต้องใช้วิธีอื่นๆ"
นายพิชัย กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ทางกระทรวงการคลังและธนาคารจะหารือกันเพื่อปรับปรุงมาตรการแก้หนี้ให้ทำได้สะดวกขึ้น ซึ่งต้องแก้ไขขั้นตอนต่างๆ ต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และสื่อสารให้ลูกหนี้เข้าใจถึงประโยชน์ของการแก้หนี้ ต้องอธิบายมากขึ้น ติดต่อมากขึ้น ทำความเข้าใจมากขึ้น บางอย่างลดเลยได้หรือไม่ เปลี่ยนวิธีขั้นตอน เพราะการปรับโครงสร้างหนี้ยังเป็นเป้าหมายสำคัญ ถ้าปรับได้จะทำให้เรื่องการปล่อยเงินเข้าระบบก็จะสมเหตุสมผลมากขึ้น
เมื่อถามว่า ข้อกังวลของนักวิชาการเรื่องเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย นักวิชาการเกรงว่าเมื่อเงินเฟ้อสูงขึ้นราคาสินค้าจะไม่ลง หากคุมเงินเฟ้อได้ไม่ดี ในอนาคตคนรายได้น้อยจะลำบาก นายพิชัยกล่าวว่า การคุมเงินเฟ้อที่ดีคือการคุมให้พอดี เพราะต้องเข้าใจว่า เงินเฟ้อมีผลกระทบหลายด้าน หนึ่งกระทบผู้บริโภค อีกด้านหนึ่งกระทบกับผู้ผลิต ดังนั้นต้องมองหลายด้าน
#ดอกเบี้ย #เงินเฟ้อ #ธปท #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์