วันที่ 24 ก.พ.2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กล่าวถึงการพิจารณารับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ โดยได้รับแจ้งว่าจะมีการประชุมในประเด็นนี้ ซึ่งมีข้อมูลต่างๆ ที่อยากประชุมเพื่อให้เข้าใจปัญหาและตัดสินใจ ซึ่งตนในฐานะประธานคณะกรรมการฯ จึงได้เรียกประชุม เนื่องจากเห็นว่ามีข้อมูลและมีความชัดเจนหลายอย่าง ก็คิดว่าดี แต่หากไม่มีข้อมูลก็ไม่สามารถที่จะพูดหรือทำร้ายอะไรได้ และตนได้มีการเสนอแล้วว่างานนี้เราไม่ได้เอาเรื่องการเมืองมากลั่นแกล้งกัน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย เป็นไปตามข้อเท็จจริง ก็น่าจะไม่มีปัญหาอื่นมาก เพราะเป็นกระบวนการทางกฎหมายที่มีเรื่องเข้ามาก็ดำเนินการ
“ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการยื่นเรื่องมาว่าเรื่องแบบนี้ต้องเป็นคดีพิเศษ ซึ่งในทัศนะของ DSI ออกเรื่องมาดูแล้วก็มีเหตุมีผล เมื่อเขาเสนอเราก็ต้องบรรจุที่ประชุม” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่าหากรับคดีไปแล้วจะกลายเป็นชนวนเหตุ เพราะ สว. ที่ได้รับเลือกไปแล้วก็ตั้งแง่ว่าเป็นเรื่องการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง ตนยืนยันในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ก็เรียกประชุมไปตามข้อเสนอที่มีเหตุและผล เพราะเขาเห็นว่ามีปัญหา เราก็ต้องรับอยู่แล้วในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการฯ เมื่อมีคนมาเสนอว่ามีปัญหาในทางกฎหมาย เราไม่เรียกก็คงไม่ได้ แต่ยืนยันว่า เป็นเรื่องของข้อกฎหมาย ถ้าไม่ชัดเจน ไม่ถึง ก็คงรับเป็นคดีพิเศษไม่ได้ แต่ถ้ามันชัดเจน ก็ไม่มีสิทธิ์ไปปกป้องอะไร เพราะเป็นไปตามกระบวนการ และไม่ได้จบแค่นี้ มันยังต้องมีการสืบสวนสอบสวนพยาน และการได้เป็นคดีพิเศษต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของคณะกรรมการคดีพิเศษ
เมื่อถามว่าจะต้องมีการเคลียร์ใจกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนพูดหลายครั้งแล้วว่าตนไม่ได้มีหน้าที่เคลียร์ใจ แต่มีหน้าที่ทำให้เป็นไปตามกระบวนการ ในเมื่อเราเรียกร้องว่ากระบวนการยุติธรรมบ้านเรามีปัญหา พอมีคนคิดขึ้นมา 1-2 คน เราต้องทำอย่างเต็มที่ ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการได้กับทุกภาคส่วน
เมื่อถามจะต้องมีการพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุสั้นๆว่า ก็ได้พูดคุยกันบ้าง ขอบคุณครับ ก่อนจะเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไป
สำหรับการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ ครั้งที่ 2/2567 ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 25 ก.พ.2568 ให้เวลา 13.30 น. ที่ กระทรวงยุติธรรม