"ปลัด มท." ประธานประชุมจัดทำแผนตรวจราชการ 18 กลุ่มจังหวัด กำชับเร่งติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบาย มท.1 " พร้อมเน้นย้ำผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยคือหัวใจสำคัญของการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ 

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ "ปลัดป๊อป" ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการกำหนดแผนและติดตามผลการตรวจราชการของกระทรวงมหาดไทย ประจำปี 2568 โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทยด้านบริหาร นายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยทั้ง 18 เขตตรวจราชการ หัวหน้าหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย 

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล "มท.1" รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย มีนโยบายที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความอุดมสมบูรณ์พูนสุขโดยถ้วนหน้า ซึ่งได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และกลไกมหาดไทยในระดับพื้นที่เร่งขับเคลื่อนงานอย่างเต็มกำลังเพื่อความผาสุกของประชาชน

"ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นหัวใจที่สำคัญในการติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย โดยยึดหลักการ "ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยทำหน้าที่เหมือนผู้ว่าราชการกลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่มจังหวัด" โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้สนับสนุนการปฏิบัติงานในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านงบประมาณ บุคลากร และด้านอื่น ๆ เพื่อให้การตรวจราชการบรรลุวัตถุประสงค์ ตอบสนองต่อพี่น้องประชาชนได้อย่างรวดเร็ว" ปลัดมหาดไทย กล่าว

นายอรรษิษฐ์ กล่าวต่อไปว่า "การตรวจราชการ" มีความสำคัญต่อการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะจะช่วยให้ผู้บังคับบัญชาสามารถรับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชนในแต่ละพื้นที่ เป็นการอุดช่องว่างของการทำงาน ซึ่งการตรวจราชการจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้นั้น ต้องมีการจัดทำตัวชี้วัดที่ดี มีแผนการทำงานที่สอดคล้องและครอบคลุมตามบริบทของพื้นที่ เพราะปัญหาของพี่น้องประชาชนในแต่ละภูมิภาคไม่เหมือนกัน 

"ขอให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยตรวจติดตามการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและนโยบายสำคัญ 5 ประการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้น ผู้ตรวจราชการจะต้องลงพื้นที่ไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในเขตที่ตนรับผิดชอบ เพื่อสอบถามถึงปัญหา และความต้องการเร่งด่วน ควบคู่กับทุกสำนัก/กอง ต้องคอยสนับสนุนข้อมูลในการทำงานของผู้ตรวจฯ เพื่อบูรณาการการทำงาน นำสิ่งที่ได้รับจากการตรวจราชการมาพิจารณาจัดทำเป็นแนวทาง/แผนการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการด้านต่าง ๆ อย่างตรงประเด็นและทันท่วงที เพราะก่อนที่เราจะบำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างเต็มที่ เราก็ต้องช่วยกันบำบัดทุกข์ให้ดีที่สุด" ปลัดกระทรวงมหาดไทย  กล่าว