วันที่ 22 ก.พ.68 เสรี สุวรรณภนนท์ อดีต สว. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เสรี สุวรรณภานนท์ ระบุว่า...

การฮั้วการเลือกตั้ง สว. เป็นอำนาจหน้าที่เฉพาะของ กกต.หรือไม่

​ก็คงต้องไปดูว่าการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทหรือไม่

การกระทำเดียวกัน อาจเป็นความผิดต่อกฎหมายการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาได้

​ในการกระทำเดียวกันที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ในขณะเดียวกันอาจเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาในข้อหา อั้งยี่ซ้องโจร ฟอกเงินหรือความฐานอื่นหากมีด้วย

​ดังนั้น ดีเอสไอ จึงมีอำนาจสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ฟอกเงินหรือความผิดฐานอื่นที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิดได้ เพราะเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทดังกล่าว

​การกระทำดังกล่าว หากพูดกับตามเนื้อผ้า ประชาชนทั้งประเทศก็เห็นเหมือนกัน สื่อมวลชนทั่วไปก็ทราบความดี ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายทำให้เห็นว่ามีการบล็อกโหวตด้วยการลงคะแนนเป็นชุดๆและมีพฤติการณ์อื่นที่มีความชัดเจน ที่ผมเคยเสนอความเห็นมาตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นพยานหลักฐานตั้งแต่แรก จนการได้มาถูกเรียกว่าเป็น สว.กลุ่มสีน้ำเงิน

​ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ กกต.ไม่ทำหน้าที่ ซึ่งหลังจากที่ กกต.รับรองผลการเลือกไปแล้ว ก็มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ และวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาที่มีการร้องเรียน แต่ กกต.ไม่ทำให้เกิดความกระจ่าง เรื่องมันก็ยิ่งยุ่ง ทั้งที่ ก็เป็นเรื่องที่ กกต.ต้องรับผิดชอบ

​เวลายิ่งผ่านไปนานวันเท่าใด กกต.ก็จะมีความผิดชัดเจนและมัดตัว กกต.มากขึ้นไปเรื่อยๆ

ประการสำคัญ คือ กระบวนการเลือกตั้งที่เราพยายามหาบุคคลเข้ามาเป็นกรรมการเลือกตั้ง อันมีหน้าที่สำคัญที่ต้องให้ความเป็นธรรมและสร้างความถูกต้องในเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. แต่กกต.กลับไม่ทำให้เป็นบรรทัดฐานที่ถูกต้องดีงาม มันเป็นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจและน่าเสียดายที่กฎหมายเขียนไว้อย่างดี แต่ปัญหามันอยู่ที่คนที่อยากเข้าเป็นกกต.แต่ไม่ทำหน้าที่ จริงๆแล้วก็ไม่รู้ว่าจะเข้ามาเป็นทำไม

​เชื่อผมเถอะ เห็นมาแยะแล้ว การที่ กกต.หากมีหน้าที่แล้วไม่ทำ ไปๆมาๆดูแล้ว กกต.จะเป็นคนที่ติดคุกเสียเอง

กกต.ควรรีบทำอะไรๆในหน้าที่ของตนให้ถูกต้องเป็นธรรม ตามอำนาจหน้าที่ของตน /.

เสรี สุวรรณภานนท์