วันที่ 21 ก.พ.68 นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า... กำลังคิดอยู่ว่าควรกลับมาซื้อหุ้นไทย (บ้าง) หรือยัง?
ถ้าจะให้กลับมาน่าซื้อ ราคาที่ลดลงมากที่สุดในโลกปีนี้ไม่เป็นเหตุผลที่ดีพอ เพราะอย่างที่เขาว่า ถ้าราคาหุ้นลดลง แต่ผลประกอบการลดลงด้วย ราคาก็ลงต่อไปได้
ที่สำคัญคือกำไรบริษัทจดทะเบียนต้องดีขึ้น กำไรต้องมากขึ้น สุดท้ายแล้วนี่คือเหตุผลเดียวที่จะทำให้หุ้นน่าซื้อ
และตลอดสิบปีที่ผ่านมา นี่คือปัญหาหลักของตลาดหุ้นไทย ไม่ใช่ robot-trade ไม่ใช่แม้แต่ short sell แต่เป็นเพราะบริษัทไทยกำไรไม่โต
หากวันนี้ดูเศรษฐกิจมหภาค แนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาวยังไม่เห็นว่าจะดีขึ้น
- ภาคการผลิตลดลงต่อเนื่อง (นึกถึงรถยนต์)
- การส่งออกไม่โต (ไม่มีอะไรมาแทนรถยนต์ แถมเจอนโยบายทรัมป์อีก)
- รัฐบาลไม่แก้ไขที่โครงสร้าง ยังติดอยู่กับประเด็นอัตราดอกเบี้ยและการแจกเงินดิจิตอล (ที่แม้มีผลระยะสั้น แต่ไม่ทำให้ใครคิดอยากมาลงทุนเพิ่มในไทย)
- GDP โดยรวมโตช้า
- คนไทยหนี้บาน
- แนวโน้มสถานะการคลังแย่ลงเรื่อยๆ จากหนี้สาธารณะและภาระจากสังคมสูงอายุที่เพิ่มขึ้น
หากดูระดับบริษัทก็ยังไม่ดี
- EPS ตลาดโดยรวมไม่โตต่อเนื่องยาวนานเป็น10 ปี
- ปัญหา governance รุนแรงขึ้น ทั้งบริษัทใหญ่และเล็ก
หากดูราคาหุ้น
- PER ตลาด 16x ไม่ถือว่าถูก
- Yield 3.80% ถือว่าใช่ได้ แต่ไม่จูงใจพอ
โดยรวมไม่คิดว่าจะมีเงินต่างชาติเข้ามา (เขากลับไปลงที่จีนก่อนดีกว่า) ส่วนเงินในประเทศมีจำกัดอยู่แล้ว และมีทางเลือกไปต่างประเทศได้มากขึ้นด้วย
สรุป คิดว่าตลาดไทยยังไม่ไปไหน…แต่อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าโอกาสรายตัวหุ้นยังมี แต่หาเองไม่เป็น เลยจะลองพึ่ง quant model ของ Definit (ในเครือ Finnomena) เพราะ ที่ผ่านมาผล model นี้พิสูจน์ว่าทำกำไรได้แม้ตลาดไม่ดี อันนี้พูดส่วนหนึ่งในฐานะประธานบริษัท Finnomena นะครับ