ราชบุรี คนร้าย ซุ่มยิงเจ้าของร้านข้าวแกงดับคาร้าน
เมื่อเวลา 05.00 น วันที่ 21 ก.พ.68 พ.ต.ท.จรูญ มหาผล สารวัตรเวรสภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับเเจ้งเหตุมีคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิต บริเวณร้านข้าวแกงเลขที่ 88/3 ม.7 บ้านห้วยศาลา ต.ยางหัก อ.ปากท่อ หลังรับแจ้งรุดเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พศพงศ์ มณฑา ผกก.สภ.ปากท่อ กองพิสูจน์หลักฐาน7 พ.ต.ท.อรรถวุฒิ อนุเอกจิตร รอง ผกก.สภ.ปากท่อ พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ พานิชสกุล รอง ผกก.สส.สภ.ปากท่อ พ.ต.ท.พิทยา รัตนา สวป.สภ.ปากท่อ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์
ในที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายข้าวแกงอยู่ติดกับถนน ที่บริเวณด้านหน้าร้านพบผู้เสียชีวิตเป็นชายทราบชื่อคือนายวิวัฒน์ อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.6 ต.หนองหญ้าปล้อง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี สภาพศพนอนหงายหน้า สวมเสื้อลายสก็อตสีแดงน้ำเงิน ใส่กางเกงขาสั้นสีฟ้าอ่อนนอนจมกองเลือดอยู่ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธลูกซองเข้าที่ด้านหลังขวา 1 นัด ทะลุคอ ด้านหน้า ใกล้กันพบหมอนลองกระสุนลูกซองตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1ชิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบสภาพร่างกายพบ
จากการสอบถาม น.ส.ประกายเดือน อายุ อายุ43 ปี เป็นลูกสาว(เป็นลูกเลี้ยง)ของผู้ตาย ได้เล่าว่าช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ของทุกวันจะขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 2 ขธ xxxx กทม. ออกมาจากบ้านมากับผู้ตาย ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 กม. เพื่อที่จะนำข้าวแกงมาขายที่ร้านเป็นปกติทุกวัน และวันนี้ก็เช่นกันพอถึงหน้าร้านก็จอดรถและได้ยกของยกกับข้าวลงเข้าร้าน จังหวะที่เดินยกของเข้าไปในร้านก็ได้เสียงคล้ายปืนดังขึ้น1นัด และพ่อก็ได้ล้มลงด้วยความตกใจตนจึงวิ่งไปแอบที่ในร้านและได้โทรบอกแฟนให้มาช่วยและก็ไม่พบผู้ก่อเหตุเลย เพราะบริเวณหน้าร้านมืดมากไม่มีไฟติดเลยช่วงกลางคืนซึ่งปมการเกิดเหตุในครั้งนี้ ตนก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามาจากเรื่องอะไร
เบื้องต้น พ.ต.ท. จรูญ มหาผล สว.สอบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน 7 ได้รวบรวมข้อมูล พยานหลักฐาน ในที่เกิดเหตุซึ่งช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่ได้ตรวจสอบคลิปจากกล้องวงจรปิดในบริเวณใกล้เคียง พบผู้ตายได้ขับรถมาถึงร้านเวลา 04.12น. และได้ยกของลงจากท้ายรถ จนเวลา 04.20น. ก็ได้มีคนซึ่งคาดว่าจะเป็นผู้ชายเดินข้ามถนนมาจากฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุเข้ามาที่บริเวณร้าน จากนั้นก็วิ่งกลับไป ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป