สยามรัฐ ยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*...
ถนัดเล่นบทเหยื่อ ผู้ถูกกระทำ ต้องยกให้กับพรรคส้ม ในวันที่ “กรรมกำลังทำงาน” ดาบแรกพรรคก้าวไกลถูกยุบ ดาบสองตามสอย สส.ขาดจริยธรรม ป.ป.ช.กำลังเดินเครื่องฉ่ำ ...*...
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะพฤติกรรมที่ศาลรัฐธรรมนูญบรรยายเอาไว้ในคำวินิจฉัยไว้ว่า “พฤติการณ์ของผู้ถูกร้องที่เสนอร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อันมีเนื้อหาเป็นการลดทอนคุณค่าสถาบันพระมหากษัตริย์ และใช้เป็นนโยบายพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งโดยการใช้ประโยชน์จากสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อหวังผลคะแนนเสียงและชนะการเลือกตั้ง เป็นการมุ่งหมายให้สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ในฐานะคู่ขัดแย้งกับประชาชน ผู้ถูกร้องมีเจตนาเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์หรือทำให้อ่อนแอลง อันนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด การกระทำของผู้ถูกร้องจึงเข้าลักษณะการกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอีกด้วย” ...*...
อีกทั้งรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 วรรคสี่ บัญญัติว่า “คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภาคณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ” ป.ป.ช.ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพิจารณาไปตามเนื้อผ้า เป็น “หมากบังคับเดิน” แต่ก็อย่างที่ ศรพระราม เคยเขียนไว้ที่นี่ ตรงนี้ ว่าจะไม่น่าจะพิจารณาแบบเหมาเข่ง วิเคราะห์เองว่า ป.ป.ช.น่าจะล็อกเฉพาะ “ตัวตึง” พวกที่อยู่หลังม็อบเด็ก ...*...
ส่วนที่มาย้อนศร ไปล่าชื่อถอดถอน ประธาน ป.ป.ช. สุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรณีคลิปพบ “อาจารย์วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ก็แค่ “แก้เกี้ยว” และต้องการชี้เป้า สร้าง “ปีศาจ” ตัวใหม่ มารบกับพรรคส้มเฉกเช่นที่เคยทำกับศาลรัฐธรรมนูญ แต่งานนี้ บอกเลยว่า ศึกนอกยังไม่เท่าไหร่ แต่ศึกใน ป.ป.ช.นั้นน่าหวั่นกว่าเยอะ ...*...
ส่วนกรณี พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ที่ถูกศาลจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 คดีบริษัททรู ดิจิทัล กรุ๊ปฟ้องข้อหากลั่นแกล้งนั้น ล่าสุด “พิรงรอง” ยังเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ เนื่องศาลให้ประกันตัว โดยที่ประชุม กสทช.นัดแรกยังไม่มีบอร์ดคนใด เสนอให้นำคดีความของ “พิรงรอง” เข้าสู่การประชุมด้วย ...*...
ส่วนที่ยังคงมีความพยายามปั่นกระแสสังคม พยายามเบี่ยงประเด็นว่า โดนฟ้องเรื่องกลั่นแกล้ง แต่ไม่ได้ฟ้องว่าไม่มีหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ประเด็นนี้ ศรพระราม ว่าอย่าพยายามตะแบงเเลย ลองคิดดูว่า ถ้าเกิดกรณีขึ้นกับเอกชนรายอื่นที่ไม่ใช่ทุนใหญ่ จะเกิดอะไรขึ้น การแก้ไขรายงานและการทำรายงานเท็จเป็นวิสัยที่ “วิญญูชนทั่วไป” ก็รู้ได้ว่าพึงกระทำหรือไม่ โดยอ้าง “เจตนาดีเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค” ก็ได้ด้วยหรือ? ในเมื่อจุดที่บอร์ด กสทช.นั่งอยู่นั้น คือ “ไม้บรรทัด” ที่จะต้องวัด และตัดสินคนอื่น ก็ควรเป็นไม้บรรทัดที่ตรงไปตรงมาไม่ใช่หรือ? …*…
ที่มา:ศรพระราม (21/2/68)