วันที่ 20 ก.พ.2568 ที่ทำเนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่า รัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญแบบเดินอ้อม แต่สถานบันเทิงครบวงจรกับเดินหน้าเต็มสปีด ว่าคนไม่รู้เรื่อง พูดออกไปก็เสียหาย เขาคุยกันมากี่เดือน ต่อกี่เดือนแล้ว เรื่องก็ยังไม่จบ ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทรนเมนต์คอมเพล็กซ์ ยังไม่ผ่าน ยังไม่บรรจุเลย ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาถามตนไม่ได้ ต้องไปถามพรรคเพื่อไทยเพราะตนไม่ใช่คนเริ่ม
เมื่อถามว่า นายพริษฐ์ต้องการให้รัฐบาล มีเจตจำนงแก่รัฐธรรมนูญให้ชัดเจน นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นกฎหมายที่เสนอโดยพรรคการเมืองผ่านระบบนิติบัญญัติ ไม่ได้ผ่านฝ่ายบริหาร หรือคณะรัฐมนตรี และไม่มีการหารือเรื่องนี้ในที่ประชุม ครม. ดังนั้นไม่เกี่ยวข้องกัน อย่าไปโยง มันถูกต้องแต่อาจจะไม่ถูกใจ แต่เราก็ต้องเอาความถูกต้องไว้ก่อน และในเมื่อไม่ได้ผ่านที่ประชุมครม. ก็ถือว่าไม่เป็นกฎหมายของรัฐบาล
เมื่อถามว่า นายพริษฐ์มองว่ามีการแลกดีลอะไรกันหรือไม่ระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายเอ็นเตอร์เทรนเมนต์ คอมเพล็กซ์ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ต้องไม่มโน มโนไปเรื่อยๆ มันก็จะมีวาทกรรม เรื่องประเทศชาติและประชาชนไปแลกดีลอะไรกันได้ ประชาชนหรือเปล่า ถ้ารัฐธรรมนูญแก้ไขแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชน อย่าว่าแต่ยกมือเดียว จะยกสองมือเลย แต่หากเป็นประโยชน์ต่อคนเดียว หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยังไงก็ไม่ผ่าน
เมื่อถามว่า มองว่าพรรคประชาชนดันทุรังไปหรือไม่ นายอนุทิน ร้องโอ๊ย พร้อมตอบว่า คนเรามันต้องดันทุรัง คำว่าดันทุรังไม่ใช่คำเสียหาย แต่ต้องดูว่า อะไรที่ทำแล้วทำได้แล้วถูกกฎหมาย ตอบส่วนรวมถึงเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมสูงสุด อันนี้ต้องดันทุรัง ใครมาขวางก็ต้องแก้ให้ได้ แต่ต้องเป็นไปตามระบบนิติธรรม และจริยธรรม
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การทำประชามติสามารถทำ 2 ครั้งได้ มองว่าครม. จะต้องเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกบ ไปด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องไปถาม ครม. ว่าแต่ละพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาล มีนโยบายอย่างไร แต่หากถามพรรคภูมิใจไทย เราบอกแล้วว่า ต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงมาตรา 112 ต้องไม่เปลี่ยนและไม่ปรับ ส่วนเรื่องอื่นๆก็ค่อยมาหารือกัน