ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี ตาไหว เห็นรถต้องสงสัยวิ่งผ่าน หน้าจุดตรวจ ไล่กวดติดตามสนธิประสานขอกำลัง ทหาร ตำรวจภูธร ตชด.ตม.สกัดจับ สุดท้าย คนขับตัดสินใจปล่อยทิ้งต่างด้าว 32 ชีวิตลงข้างถนน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 07.50 น.ของวันที่ 19 ก.พ.68 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล.และ พ.ต.ต.โจ เสาร์ประโคน สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.สั่งการให้ ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล รอง สว.ฯ ร.ต.ต.พีรธรรม หนุนุรัตน์ ร.ต.ต.สุรศักดิ์ จิตมณี ร.ต.ท.นิกร สีเมือง รอง สว.(ป) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.,พร้อมด้วย จนท.ตร.ปคม., จนท.ตร.สภ.ไทรโยค, จนท.ตม.กาญจนบุรี, จนท.ตชด.136, จนท.ทหาร ฉก.ลาดหญ้า, จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค ร่วมปฏิบัติการจับกุมการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฏหมาย
สืบเนื่องจากภาพวีดีโอจากกล้องหน้ารถของตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี ได้ออกตรวจในเส้นทางถนนสาย 323 ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง พบเห็นรถกระบะต้องสงสัยขับผ่านไปด้วยความเร็วสูง จึงได้ขับติดตามไปตามเส้นทางขาเข้าเมืองกาญจนบุรี
รถคันดังกล่าวเห็นรถตำรวจทางหลวงวิ่งติดตาม จึงได้ขับย้อนศรเลี้ยวเข้าไปหมู่บ้านตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงประสานกำลังทหารชุด ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ฯ ตำรวจ สภ.ไทรโยค ตชด.ที่ 134 ตม.จ.กาญจนบุรี ให้สกัดจับอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้ติดตามไปจนถึงถนนทางดินลูกรัง หน้าสถานีรถไฟวังสิงห์ พบชาวเมียนมากำลังลงจากรถ เจ้าหน้าที่จึงตะโกนว่า ไม่ต้องหนี หยุดนะ พร้อมทั้งเข้าพูดคุยให้บุคคลต่างด้าวนั่งลง ส่วนคนขับทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปได้
จากนั้นจึงแจ้งให้หน่วยที่สกัดจับมาควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 32 คน ไปสอบสวนที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไทรโยค
จากการตรวจสอบรถยนต์ที่ขนบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมามา เป็นรถยนค์กระบะยี่ห้ออีซูซุรุ่นดีแม็ก สีเทา ทะเบียน บบxxxxพระนครศรีอยุธยา ติดตั้งหลังคากระบะบรรทุกตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทางต่างด้าว ทั้ง 32 คน พบว่าไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางหรือเอกสารในการเดินทางมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด จึงแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิด เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการสอบสวนปากคำ บุคคลต่างด้าว ทราบว่า ทั้งหมดเดินทางมาจากพญาตองซู ประเทศเมียนมาร์ โดยผู้ต้องหา 26 คน จะเดินทางไปเกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี อีก 4 คน จะเดินทางไป กรุงเทพมหานครฯ ส่วนอีก 2 คนจะไป อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร จากนั้นจะมีนายจ้างมารับต่อ ส่วนคนที่จะไปเกาะสมุย ก็จะเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย คิดค่าเดินทางคนละ 40,000 บาท ส่วนคนที่จะไปกรุงเทพฯ คิดค่าเดินทางคนละ 11,500 บาท ส่วนคนที่จะเดินทางไปมหาชัย คิดค่าเดินทางคนละ 13,000 บาท หลังบันทึกการจับกุมเป็นที่เรียบร้อย จึงควบคุมตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดพร้อมของกลางรถยนต์กระบะ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
ในการจับกุมในครั้งนี้ จะพบว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับ จะโดยสารมากับรถกระบะแค่ตัวเปล่ากับโทรศัพท์มือถือ ส่วนกระเป๋าสัมภาระน่าจะอยู่ในรถอีกคันซึ่งหลบหนีการจับกุมไปได้ หรืออาจจะเดินทางล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนเชือกสีที่ผูกในข้อมือก็จะไว้คัดแยกเวลาที่ไปถึงจุดหมาย โดยเชือกสีเหลืองจะไปที่เกาะสมุย