นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ประธานคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน นำทีมบุกตรวจสอบการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ผิดวัตถุประสงค์ในปากช่อง พบคาเฟ่-รีสอร์ตขนาดใหญ่รุกพื้นที่เกษตรกรรม เดินหน้าทวงคืนที่ดิน-ส่อเพิกถอนโฉนด
18 กุมภาพันธ์ 2568 นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.), กรมที่ดิน, ตำรวจ ป.ป.ป., ตำรวจ ป.ท.ส. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่ตรวจสอบการใช้ที่ดินผิดวัตถุประสงค์ใน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยเป้าหมายหลักเป็นคาเฟ่ รีสอร์ต และสนามกอล์ฟขนาดใหญ่ที่อาจได้มาจากกระบวนการที่ไม่ถูกต้อง
ตรวจสอบจุดแรกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ คาเฟ่ขนาด 31 ไร่ ในตำบลโป่งตาลอง ซึ่งพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก. แต่กลับถูกนำมาใช้เป็นธุรกิจท่องเที่ยว มีการจัดเก็บค่าเข้าชม 50 บาท และเปิดให้เช่าห้องพักในราคา 2,000-3,000 บาทต่อคืน
ข้อมูลจากการสืบสวนทางการเงินพบว่า ผู้อยู่เบื้องหลังเป็นอดีตข้าราชการกรมที่ดิน ที่นำที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งควรใช้เพื่อการเกษตร มาสร้างเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. สั่งปิดคาเฟ่ทันที และจะออกหนังสือแจ้งเตือนให้ผู้ครอบครองยุติการใช้ที่ดินผิดประเภทภายใน 30 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินมาตรการยึดคืนและดำเนินคดีทางกฎหมาย
ตรวจสอบจุดที่สอง รีสอร์ตขนาดใหญ่กว่า 2,500 ไร่ ในตำบลโป่งตาลอง ที่ดำเนินกิจการมานานถึง 18 ปี นายธนดลเปิดเผยว่า โฉนดที่ดินของรีสอร์ตแห่งนี้มีปัญหา เนื่องจากได้มาจากการขยายแนวเขต นิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งขัดต่อ มติคณะรัฐมนตรีปี 2525 ที่ระบุชัดว่า ห้ามขยายเขตนิคม
อย่างไรก็ตาม ระหว่างปี 2536-2538 กลับมีการขยายพื้นที่ออกไป โดยที่ดินดังกล่าว ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) และยังพบว่าเดิมพื้นที่นี้ได้รับการจัดสรรเป็นที่ดินเกษตรกรรมในปี 2534 แต่กลับถูกนำมาออกโฉนดเป็นที่ดินเอกชน เจ้าหน้าที่จึงเตรียมดำเนินการ ทวงคืนพื้นที่และตรวจสอบกระบวนการออกโฉนด
ตรวจสอบจุดที่สาม สนามกอล์ฟขนาดใหญ่ในตำบลโป่งตาลอง ซึ่งมีชื่อของ ครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เข้ามาเกี่ยวข้อง
นายธนดล เปิดเผยว่า แม้เจ้าของที่ดินจะยืนยันว่าได้มาอย่างถูกต้อง แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า โฉนดที่ดินส่วนหนึ่งออกจากเอกสาร นค. 3 ซึ่งเป็นพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำตะคอง อย่างไรก็ตาม พบว่ามี การขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเขตนิคมฯ ทำให้มีการทับซ้อนกับที่ดินในเขต ส.ป.ก.หากตรวจสอบพบว่า มีการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ อาจนำไปสู่ การเพิกถอนโฉนดและดำเนินคดีต่อไป
หลังการตรวจสอบครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จะออกหนังสือแจ้งเตือนให้ ผู้ถือครองที่ดินผิดประเภทปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยให้ เวลาปรับเปลี่ยนภายใน 30 วัน หากไม่ดำเนินการ ที่ดินจะถูกยึดคืนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
การตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ในปากช่องครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการ จัดระเบียบที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม และ ป้องกันการนำไปใช้เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน
การดำเนินงานครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความเข้มงวดในการตรวจสอบและทวงคืนพื้นที่เกษตรกรรมจากนายทุน ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของมาตรการจัดการที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศ