ผอ.รพ.ระยอง ยันดำเนินคดี มือตบพยาบาลให้ถึงที่สุด สาเหตุจากถูกเตือนไม่ให้นำเด็กเข้าเยี่ยมยายในห้องไอซียู
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 18 ก.พ.ที่ห้องประชุมนฤเบศร์ ชั้น 12 อาคารบูรพาทิศ โรงพยาบาลระยอง นพ.ภูษิต ทรัพย์สมพล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลระยอง ได้แถลงถึงกรณีที่พยาบาลสาวถูกญาติผู้ป่วยทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้าอย่างแรง เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกเตือนเรื่องการนำเด็กเข้าเยี่ยมยาย ในห้องคนไข้วิกฤติ ตึกอายุรกรรมหญิง โดยระบุว่า โรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงในสถานพยาบาล ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นพ.ภูษิต กล่าวว่า ขณะนี้ทางโรงพยาบาลได้ให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เสฏฐวุฒิ สุทธิวัฒนมงคล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองระยอง แล้ว และ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เตรียมเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนโดยละเอียดเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"โรงพยาบาลได้มอบหมายให้ฝ่ายนิติกรดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งดูแลสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เสียหายอย่างดีที่สุด โดยให้พยาบาลสาวพักงานชั่วคราวเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจ ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นต้นสังกัด จะมีการแถลงข่าวถึงมาตรการช่วยเหลือและแนวทางดำเนินการต่อไป" นพ.ภูษิต กล่าว
ด้านชมรมพนักงานกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดระยอง ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่านี่เป็นภัยคุกคามต่อบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย และมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต
จากการดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดเหตุขึ้นตามเวลาที่ระบุในกล้องวงจรปิด เวลา 18.24 น.วันที่ 16 ก.พ.68 ได้มีผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีส้มกางเกงขาสั้นสีขาว กำลังยืนล้วงกระเป๋าคุยกับพยาบาลที่สวมชุดสีชมพูภายในห้องคนไข้วิกฤต ตึกอายุรกรรมหญิง ระหว่างนั้น น.ส.ปรางค์ พยาบาล ได้เดินเข้ามา ได้พูดกับผู้ชาย จู่ๆ ผู้ชายคนดังกล่าว ได้หันมาใช้มือตบเข้าที่กกหูอย่างแรงถึง2ครั้ง ถึงกับเซถลาไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เตรียมเรียกตัวผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านผู้ใช้เฟสบุ๊ก “เอ็ม อรสุชา“ ได้เขียนข้อความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า แม่ของตนเอง ได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่จากลูกของตนเอง จึงพารักษาที่โรงพยาบาล พอถึงเวลาเยี่ยมจึงพาลูกเข้าไปเยี่ยมยาย เพื่อให้คุณยายเห็นหลานจะได้มีกำลังใจเพราะเป็นหลานรัก โดยพยาบาลคนแรกพูดจาดีมาก และ ยอมให้เข้าเยี่ยม แต่ต้องรอให้เช็ดตัวเสร็จก่อน จึงออกไปรอ จนพาลูกเข้าไปอีกรอบ โดยให้สามีรออยู่ด้านนอก พอเข้าไปเจอกับ พยาบาลที่ถูกทำร้าย ได้เดินออกมา แล้วก็ถอดหน้ากากอนามัย แล้วชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะพูดตะคอกว่า “สูญเสียแม่อีกคนยังไม่พอ อยากจะสูญเสียลูกอีกคนยอมรับได้ใช่ไหมพาเด็กออกไปเดี๋ยวนี้” จึงพาเด็กออกไป แล้วร้องไห้ เพราะคำพูดของพยาบาลคนดังกล่าว ทำให้คิดว่า แม่ของตนไม่รอดแล้ว สามีจึงเกิดอารมณ์โมโห เดินเข้าไปถามว่าใครด่าเมียผม ก่อนจะบันดาลโทสะ ตบไป ซึ่งสามียอมรับว่าลงมือทำจริง และ ยอมรับผิด เตรียมรอพบตำรวจ