ป.ป.ช.จัดกิจกรรมงานรณรงค์เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์
 
    เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 สำนักงาน ป.ป.ช โดยสำนักพัฒนาและส่งเสริมธรรมาภิบาล จัดกิจกรรมงานรณรงค์เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ โดยมี นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ห้องสุวิทย์ศักดานนท์ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
 
    โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องมาตรฐานจริยธรรม และกฎหมายเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม และเพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่กลุ่มเป้าหมายได้รับทราบแนวปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม ตลอดจนเกิดความตระหนักในบทลงโทษตามมาตรฐานจริยธรรมและกฎหมายเกี่ยวกับการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวมสร้างวัฒนธรรมและทัศนคติค่านิยมอันดีเกี่ยวกับการปฏิเสธการให้และรับของขวัญหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าในโอกาสต่าง ๆ
 
    ด้าน นายศรชัย ชูวิเชียร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ตระหนักดีว่าการดำรงตำแหน่งในภาครัฐนั้น ไม่เพียงแต่ ต้องอาศัยความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังต้องดำรงตนอยู่บน หลักจริยธรรม จรรยาบรรณ และมาตรฐานการปฏิบัติงานที่เหมาะสม ทั้งนี้ก็เพราะการดำรงตำแหน่งหน้าที่ในภาครัฐนั้น เป็นการดำรงตำแหน่งที่ได้รับได้รับมอบอำนาจจาก ประชาชนและใช้อำนาจนั้นในการบริหารจัดการทรัพยากรสาธารณะ ดังนั้น ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงมีหน้าที่และมีข้อผูกมัดที่จะต้องยึดมั่นต่อ ประโยชน์ของสาธารณะเป็นที่ตั้ง และไม่ใช้หน้าที่และอำนาจในการแสวงหาประโยชน์ ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง
 
    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยจะมีการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม และมีการบัญญัติกฎหมายหลายฉบับ เพื่อระงับยั้งยั้งการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ แต่ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ก็ยังคงเป็นประเด็นปัญหาที่ปรากฏขึ้น ไม่เว้นวัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์การเรียกรับสินบน การดำรงตนไม่เหมาะสมกับตำแหน่ง หน้าที่ การใช้อำนาจหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวกพ้อง การฮั้วประมูล การทุจริตเชิงนโยบาย การถือหุ้นในกิจการที่ตนมีส่วนได้เสียกับตำแหน่งหน้าที่ การยักยอกเงินและทรัพย์สินของทางราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว การบุกรุก และการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ และเหตุการณ์อื่น ๆ อีกมากมาย
 
    ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำทุจริต และเพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้ถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมถึงอันตรายจากผลประโยชน์ทับซ้อน สำนักงาน ป.ป.ช. จึงจัดงานรณรงค์ เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชนขึ้น โดยกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ผู้บริหารและสมาชิกพรรคการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐตำแหน่งอื่นที่เกี่ยวข้อง
 
    สำหรับกิจกรรมภายในงาน ช่วงเช้าประกอบด้วยการเสวนา หัวข้อ “วิถีจริยธรรมของบุคลากรภาครัฐในองค์กร ฝ่ายนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ พฤติการณ์อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ใช้บรรทัดฐานระดับใดดี” โดย ศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ,ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ, ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี,นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สภาสมาชิกผู้แทนราษฎร และ คุณอรอุมา เกษตรพืชผล เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
    ช่วงบ่าย เป็นการเสวนา หัวข้อ “จับเข่าคุยขุดคุ้ยประเด็นการให้-รับทรัพย์สินปฏิบัติอย่างไรสังคมจะไม่ติเตียน” โดย นายอุทิศ บัวศรี อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช., นายมีชัย โอ้น ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมธรรมาภิบาลภาครัฐ , และนายนายสรศักดิ์ ระดาเขตร์ ผู้อำนวยการส่วนระเบียบกลางสำนักกฎหมายและระเบียบกลาง สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคุณอรอุมา เกษตรพืชผล เป็นผู้ดำเนินรายการ
 
    โดยกิจกรรมงานรณรงค์เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและป้องกันการกระทำผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ครั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมุ่งเน้นส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้ถึงอันตรายที่เกิดจากการทุจริตและประพฤติมิชอบ รวมถึงอันตรายจากผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรมและป้องกันการกระทําผิดเกี่ยวกับการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และสิ่งสำคัญที่สุด จะช่วยผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกท่าน ได้เกิดความตระหนักถึงผลกระทบจากการทุจริตและผลประโยชน์ทับซ้อน ร่วมกันต่อต้านการทุจริตประพฤติมิชอบ ให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการร่วมกันพัฒนาระบบราชการไทยให้มีความโปร่งใสปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และเป็นความหวัง เป็นที่พึ่งของประชาชนต่อไป