“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ปัตตานี ถก“แม่ทัพภาค 4 ส่วนหน้า” ลุยปรับยุทธศาสตร์แก้ไฟใต้ใหม่ เน้นการพัฒนา ด้าน “สว.” ห่วงไฟใต้โหมแรง เหตุ “บีอาร์เอ็น” ถูกบีบจากรัฐบาลมาเลเซีย-ต้องการเร่งรัดให้รัฐบาลไทยตั้งโต๊ะเจรจา เตรียมยื่นกระทู้ถาม “นายกฯ”จะแก้อย่างไร หวั่น เดือนรอมฎอนก่อเหตุเพิ่มขึ้น

เมื่อเวลา 06.45 น.วันที่ 17 ก.พ. 68 ที่ถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ  นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจราชการ จังหวัดชายแดนภาคใต้ในวันเดียวกันนี้ว่า จุดหลักที่ตนเดินทางไปคือค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า) เพื่อไปฟังรายละเอียดต่างๆ ซึ่งจริงๆ ก็มีส่วนที่หารือกันอยู่แล้วในการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ภาคใต้ แล้วจะได้พบกับแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โดยจะคุยกันในรายละเอียดสิ่งที่ดำเนินการไปข้างต้นแล้ว และจะมีการให้นโยบายบางส่วนไปก่อน ซึ่งหลังจากที่ยุทธศาสตร์ออกมาแล้ว ก็ต้องคุยให้ชัดเจนอีกที แต่ก็อยู่ในกรอบนั้น 


จากนั้นนายภูมิธรรม และคณะจะเดินทางไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยรับฟังการทำหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งตำรวจมีอำนาจในการจับกุม รวมไปถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  (ศอ.บต.) ที่ดูแลเรื่องการพัฒนา ขณะนี้เรากำลังวางยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา สิ่งที่เรากำลังคุยกันอยู่ มีสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นตัวกลางในการประชุม เรื่องนี้ต้องทำทั้ง 3 ฝ่าย ทางฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจ คงต้องมีการประเมินและวางจุดในการทำงานต่อไป
จากนั้นนายภูมิธรรมและคณะ จะเดินทางไปที่ บก.ฉก.ร.5 ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา รับฟังการทำงานของกองกำลังเทพสตรี และไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมรับฟังความคิดเห็น เพราะตรงนี้มีประเด็นที่อยากฟังในเรื่องที่กำลังจะปรับเปลี่ยน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ไปแล้ว 1 ครั้ง และมอบหมายให้มีการไปปรับยุทธศาสตร์ คิดว่าการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ต้องเป็นการฟังมาจากข้างล่าง ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน และเราจะได้เดินไปได้อย่างถูกต้อง งานอื่นๆที่จะดำเนินต่อก็จะได้ทำไปได้


ด้าน  นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.67 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา แนวร่วมมีการวางระเบิดคาร์บอมบ์รถยนต์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีสาคร วางระเบิดคาร์บอมบ์รถยนต์ปลัดอำเภอยี่งอ และวางระเบิดคาร์บอมบ์รถยนต์เทศบาลรือเสาะ จ.นราธิวาส 2 วัน 3 เหตุการณ์ และวางระเบิดแสดงเครื่องตำรวจชุดคุ้มครองครู อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 4 นาย และล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.พ.68 มีการยิงประชาชนที่ไปหาของป่าบาดเจ็บ 2 คน ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส


นายไชยยงค์ กล่าวว่า สาเหตุที่กองกำลังติดอาวุธขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น มีการก่อเหตุร้ายมากขึ้น และรุนแรงขึ้น มาจากการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการเคลื่อนไหว ขอให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายอันวาร์ อิบราฮิม ให้ช่วยเหลือกดดันขบวนการบีอาร์เอ็น ที่มีฐานที่มั่นในรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ทำให้บีอาร์เอ็นไม่พอใจ และประกาศที่จะก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น หากรัฐบาลมาเลเซีย กดดันให้ขบวนการบีอาร์เอ็น ยุติการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งบีอาร์เอ็นออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเปิดเวทีการเจรจาสันติภาพ ที่หยุดชะงักไปตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยมาบริหารประเทศ ซึ่งโฆษกบีอาร์เอ็น ได้ออกมาข่มขู่ว่าหากไม่ดำเนินการเจรจาสันติภาพ บีอาร์เอ็นไม่รับรองว่าเหตุรุนแรงจะเพิ่มขึ้นหรือไม่


นายไชยยงค์ กล่าวว่า ปัญหาความล้มเหลวของการแก้ไฟใต้ มาจากงานการข่าวของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ล้มเหลว หน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ขาดเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ในการจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย เพราะกฎหมายที่ใช้ในปัจจุบัน ทั้ง ป.วิอาญา ทั้ง พรก.ฉุกเฉิน กฎอัยการศึกษา และกฎหมายความมั่นคง เป็นกฎหมายที่ล้าหลัง สร้างปัญหามากกว่าการแก้ปัญหา รัฐบาลต้องต้องออกกฎหมายการก่อการร้าย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นเครื่องมือในการดับไฟใต้ หากรัฐบาลยังเห็นว่าสถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องการก่อความไม่สงบ และใช้ กฎหมายที่มีอยู่ เพื่อแก้ปัญหา จะแก้ไม่ได้ เพราะวันนี้สถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องการก่อการร้าย ไม่ใช่เรื่องความไม่สงบ


นายไชยยงค์ กล่าวอีกว่า ยุทธศาสตร์การดับไฟใต้ของ สมช. มีความผิดพลาด ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงของสถานการณ์ เช่นเดียวกับ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายในการรับมือกับสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้น


“ที่น่าเป็นห่วง ในห้วงเดือนรอมฎอนของทุกปี จะมีการก่อเหตุร้ายมากขึ้น เพราะบีอาร์เอ็นบ่มเพาะให้คนในขบวนการออกมาก่อเหตุในเดือนรอมฎอน โดยอ้างว่าการก่อเหตุต่อศัตรูในเดือนรอมฎอน ผู้ก่อเหตุจะได้บุญ 10 เท่า ซึ่งในเดือน มี.ค. จะเข้าสู่เดือนรอมฎอน ที่อาจจะมีการก่อเหตุมากขึ้น และมีความสูญเสียมากขึ้น ดังนั้นตนจะยื่นกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาไฟใต้อย่างไร เพื่อให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ถามในรัฐสภา ให้ประชาชนได้รับทราบ” นายไชยยงค์ กล่าว