เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 17 ก.พ. 68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงจังหวัดสงขลา เพื่อลงพื้นที่พูดคุยเรื่องกระบวนการผลิตและส่งออกอาหารทะเล ที่บริษัท ไทยยูเนี่ยน ซีฟู๊ด จำกัด ตำบลวัดขนุน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา โดยนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการภายในบริษัทฯ ซึ่งบริษัท ได้มีการจ้างงานชาวบ้านในพื้นที่มีทั้งคนไทยประมาณ 55 % และต่างด้าว และบริษัทได้เข้าไปร่วมงานประเพณีสำคัญต่างๆของพื้นที่รวมถึงได้มีการมอบทุนการศึกษา ไม่ใช่เฉพาะเด็กเรียนดีแต่ให้ทุนการศึกษากับเด็กที่ขาดโอกาสด้วย
ทั้งนี้นายกฯ สอบถามว่า มีคำถามว่าเราทราบดีว่ามีพี่น้องประชาชนเข้ามาทำงานที่นี่เยอะคนไทยประมาณ 55% อยากทราบว่าทางโรงงานมีอะไรที่ร่วมกับชาวบ้าน เพราะถ้าไม่มีรัฐบาลพร้อมจะช่วยซัพพอร์ต เพราะความจริงบริษัททำออกมาแบบนี้ค่อนข้างเป็นอะไรที่ดีมาก และทำมา 40 กว่าปีแล้วแต่ไม่ใจว่าพอทำตรงนี้ได้ อาจจะทำเป็นความรับผิดชอบทางสังคมเชิงบรรษัท(ซีเอสอาร์) แต่หากบริษัททำอยู่แล้ว ก็สามารถบอกรัฐบาลได้เกี่ยวกับภูมิปัญญาของเกษตรกร อาจจะมีความรู้หรือเทคนิคอะไรที่เพิ่มมากขึ้นในการประกอบอาชีพ
ต่อมาเวลา 16.45 น.นายกฯ เยี่ยมชมชุมชนเมืองเก่าสงขลา และพูดคุยประเด็นการส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสงขลา ที่ย่านเมืองเก่าสงขลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคน นายอนุทินชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช. มหาดไทย และประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา
เมื่อนายกฯ และคณะเดินทางเยี่ยมชมอาหารมุสลิมพหุวัฒนธรรมบ้านบน ก่อนเยี่ยมชมวิวปากน้ำทะเลสาปสงขลา จากนั้นนายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวรายงาน จังหวัดสงขลาขับเคลื่อนให้จังหวัดเป็นเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านอาหารในปี 2568 และที่สำคัญขณะเดียวกันเราได้วางแผนในการส่งเสริมให้จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่เข้าสู่มรดกโลกในปี 2570 และปี 2567 มีนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 7 ล้านคน มีรายได้อยู่ที่ 5.02 หมื่นล้านบาท จะเห็นว่าการเติบโตด้านการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่องทั้งชาวไทยชาวต่างชาติ
ด้านประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวเสนอการพัฒนาพื้นที่จังหวัดสงขลา เช่น การสร้างท่าเรือขนาดเล็กที่ปลอดภัย และเหมาะสมตามมาตรฐาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวขึ้นฝั่ง รองรับเรือสำราญที่จอดในร่องน้ำลึก และผลักดันเขตเศรษฐกิจใหม่ใหม่ในอำเภอหาดใหญ่ เพื่อให้กลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกครั้ง
นอกจากนี้ ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลาได้เสนอรัฐบาลให้แก้ปัญหาเรื่องเรดโซน (พื้นที่สีแดง) เนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดสงขลาเคยมีปัญหาเรื่องความไม่สงบจน บริษัทประกันภัยไม่คุ้มครองนักท่องเที่ยวที่มาในพื้นที่จังหวัดสงขลา แต่ขณะนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาระบุว่าพื้นที่สงขลาปลอดภัยแล้ว จึงอยากให้ออกมาตรการเช่นพื้นที่เขตธุรกิจใหม่ ออกกฏหมายเพื่อให้มีมาตรฐาน ตามสากล ยกเว้นเรื่องภาษีต่างๆและจัดอีเวนท์ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ด้านนายกฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมกันในวันนี้และบอกถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่มีในพื้นที่ เพราะถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในเรื่องของการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เห็นแล้วว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก เพราะเห็นแค่ตัวตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่น่าสนับสนุน และยังคิดอยู่ในใจ และคุยกับรองนายกฯว่าการท่องเที่ยวแบบลักซูรี่ และเรือครูซ แบบจังหวัดภูเก็ตที่รับนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว ให้วนแวะเวียนมารับและส่งนักท่องเที่ยวที่จังหวัดสงขลาด้วย เราพยามจะให้ประเทศของเราทุกพื้นที่ไม่จำเป็นแค่เมืองหลัก เมืองรองมีโอกาสเป็นพื้นที่จังหวัดน่าเที่ยวของทั้งโลก ทั้งนี้ ขอให้ประธานสภาหอการค้าจังหวัดสงขลาสรุปเรื่องของกฎหมาย เพราะบางกฎหมายมีนานมาก บางทีไม่ได้ประยุกต์ไม่ได้ปรับเข้ากับปัจจุบันผ่านมา 30 ปี แต่บางกฎหมาย 60 ปีก็มี ความจริงแล้วภาคส่วนต่างๆ ต้องช่วยกันอัพเดทกฎหมายหรือ เพราะกฎหมายของเรามีเป็นแสนฉบับ ประเทศไทยเป็นแบบนี้จริงๆซ้ำซ้อนกัน ซึ่งกฎหมายมีมานานอยากให้ทางท้องถิ่นนำเสนอขึ้นมาว่ามีอะไรบ้างที่จะปรับกันได้บ้าง
นายกฯ กล่าวว่าต่อว่า ในเรื่องของเส้นทางและเรื่องของไฟตอนกลางคืน และขอให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ไปดูเรื่องนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอยู่ตรงนี้ และมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถ้ามีเรื่องหรือมีอะไรขอให้ส่งมา ทั้งนี้วันนี้ที่มามองเห็นว่าจังหวัดสงขลาสวยจริงๆน่าเที่ยว และอีกอย่างถือเป็นประเด็นที่ต้องไปเคลียร์เรดโซน(พื้นที่สีแดง) ถ้าเราไม่ได้มีความรุนแรงเกิดขึ้นต้องดูเรื่องของประกันให้ครอบคลุมไปด้วย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว และได้ยินอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามีข้อมูลอะไรขอให้ส่งมา เราจะช่วยกัน ภาครัฐ และภาคเอกชนถ้าร่วมมือกันคิดว่าสงขลาไปได้อีกไกลแน่นอน ยืนยันว่าจังหวัดมีศักยภาพสูง เพราะฉะนั้นอย่าพึ่งท้อใจทุกอย่างใช้เวลาเล็กน้อย ขอให้ช่วยกันพี่น้องประชาชน ชุมชนเข้มแข็งแบบนี้พัฒนาได้ง่าย
จากนั้นนายกฯ เดินเยี่ยมชมเมืองเก่าสงขลา ก่อนหยุดชมการแสดงรองเง็ง และชมการแสดงมโนราห์ รวมถึงเยี่ยมชมบ้านนครใน ซึ่งเป็นบ้านโบราณเก่าแก่ย่านสงขลา ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี โดยมีประชาชนสนใจเดินตามถ่ายรูปนายกฯ และขอถ่ายรูปกับนายกฯ ตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้ระหว่างเดินเยี่ยมชมย่านเมืองเก่า นายกฯได้แวะร้านบ้านจงดี ขนมไทย ชิมขนมทองเอก โดยนายกฯ ได้ชิมขนมพร้อมชวนรัฐมนตรีที่ร่วมคณะชิมขนมด้วย โดยระหว่างนั้นมีชาวบ้านเข้ามอบดอกกุหลาบให้นายกฯพร้อมเรียกร้องให้นายกฯดำเนินการเรื่องเงินเยียวยาน้ำท่วม โดยนายกฯตอบว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าที่ประชุมครม.แล้ว”
จากนั้นนายกฯและคณะ เข้าสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเดินทางมาเยือนจังหวัดสงขลา และแวะชิมไอครีมถั่วเขียวโบราณ ร้านบันหลีเฮง จากนั้นนายกฯเดินทางไปยังแหลมสมิหลา เพื่อรับประทานอาหารเย็น และถ่ายภาพร่วมกับคณะที่บริเวณรูปปั้นนางเหงือก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำแหลมสมิหลา ก่อนพักค้างคืนที่จังหวัดสงขลา 1 คืนก่อนที่วันที่ 18 ก.พ.นำประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา