หนุ่มขอนแก่นทะเลาะกับแม่ เรื่องเล่นโทรศัพท์จนดึก  ก่อนพบกลายเป็นศพจมน้ำใน ม.ชื่อดัง แม่เผยได้กลิ่นศพและกลิ่นตัวลูกโชยมาขณะอาบน้ำก่อนตำรวจโทรมาแจ้งเหตุสลด

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 17 ก.พ.2568 ร.ต.อ.นนทพันธ์ บุดดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุการณ์ที่ชาวบ้านที่มาออกกำลังกายรอบบึงสีฐาน ภายในมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองขอนแก่น เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบศพคนเสียชีวิตอยู่ภายในบึง หลังรับแจ้งจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพและ แพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ไปตรวจสอบ พร้อมกับแจ้งประสานไปยัง นาง ธัญลักษณ์ อายุ 51 ปี ที่อยู่ 28 ม.3 ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งแจ้งความตามหาลูกชายหายตัวออกจากบ้านไปเมื่อกลางดึกวันที่ 14 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบศพชายเสียชีวิตในบึง สภาพศพลอยคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขายาวสีดำ ก่อนจะค่อยๆลอยมาติดฝั่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างขอนแก่น สามัคคีอุทิศ จึงได้นำร่างขึ้นมาให้แพทย์ร่วมทำการชันสูตรบนฝั่งกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยการชันสูตรเบื้องต้นของแพทย์พบว่าศพขึ้นอึดเสียชีวิตมาแล้ว 48 - 62 ชั่วโมง

 โดยนางธัญลักษณ์ อายุ 51 ปี  มั่นใจว่าศพที่พบนั้นเป็นลูกชายตัวเอง เพราะจำเสื้อผ้าที่ใส่ และเล็บขาวที่แม่ทาให้ข้างซ้ายข้างเดียวได้ โดยผู้เสียชีวิตคือ นาย ปัญญากร อายุ 19 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างส่งตรวจพิสูจน์ยืนยันที่นิติเวชโรงพยาบาลศรีนครินทร์ตามขั้นตอน

นางธัญลักษณ์ กล่าวว่า  ตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มาเช่าบ้านเปิดร้านเสริมสวยอยู่ในหมู่บ้านสามเหลี่ยม ใกล้กับจุดเกิดเหตุและสถาบันกวดวิชาที่สมัครให้ลูก เพื่อจะเดินทางไปเรียนได้สะดวก เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 14 ก.พ.2568 ที่ผ่านมา ตนเองเปิดประตูห้องลูกชายเห็นกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่ จึงได้บอกลูกให้เลิกเล่นเพราะดึกแล้ว โดยต่างคนต่างขึ้นเสียงใส่กันจนกลายเป็นทะเลาะกัน ก่อนที่ลูกออกจากบ้านไปพร้อมกับโทรศัพท์ โดยไม่ได้เอาสายชาร์จไปด้วยและติดต่อไม่ได้อีกเลย 

" ตอนที่ลูกออกจากบ้านไปนั้นตนเองร้องไห้จึงได้นั่งสมาธิอยู่ในบ้านเพื่อสงบสติอารมณ์ อยู่ๆได้ยินเสียงน้ำจากฝักบัวไหลออกมาอย่างแรงโดยที่มีเพียงตนเองอยู่ที่บ้าน ก่อนจะเงียบไปแล้วได้กลิ่นศพ เพราะตนเองจะเซ้นส์ไวในเรื่องกลิ่นศพ สักพักหายไป ตนเองจึงพูดออกไปว่าเอเลี่ยนใช่ไหม ซึ่งลูกชายชื่อเล่นว่าเอเลี่ยน ถ้าใช่เอเลี่ยนมาอีกที่ซิกลิ่น และก็ได้กลิ่นจริงๆ แต่ตอนนั้นยังไม่เชื่อทันทีว่าลูกจะเสียชีวิตแล้ว กระทั่งวันต่อมาได้กลิ่นตัวของลูกชาย และเสียงถอนหายใจอย่างแรงที่เป็นเสียงของลูกชาย เพราะลูกชายจะเป็นคนขี้หงุดหงิด

และช่วง 11.00 น. มีข้อความเด้งมาว่าสามารถติดต่อลูกได้แล้ว แต่ก็โทรไม่ติด เพื่อนๆของลูกก็ช่วยกันติดต่อแต่ก็ไม่มีใครโทรได้ แต่จะพบในจีพีเอสตำแหน่งของโทรศัพท์ลูกว่าอยู่ในย่านกังสดาลใกล้ๆกับจุดเกิดเหตุ จนกระทั่ง ตำรวจโทรศัพท์มาตามให้มาดูศพ หลังจากที่ตนเองได้แจ้งความลูกหายเอาไว้ กระทั่งพบว่าเป็นลูกชายตัวเองจริง เพราะจำเสื้อรุ่นของลูกชายที่ทำขึ้นตอนเรียนมัธยมกับเพื่อน และกางเกงขายาว รวมทั้งเล็บที่ตนเองทาสีขาวให้ลูกเพียงข้างเดียว"

นางธัญลักษณ์ กล่าวต่ออีกว่า ลูกชายเรียนจบมัธยมศึกษาปลายแล้ว และทำคะแนนสอบ NETSAT ของมหาวิทยาลัยที่ตัวเองอยากเข้าเรียนได้ถึงกำหนด ซึ่งลูกชายเตรียมจะไปยื่นเอาโควต้าคณะวิทยาศาสตร์ สาขาแบตเตอรี่และพลังงาน  และตอนที่ลูกเรียนอยู่สถาบันกวดวิชาใกล้บ้านนั้น อาจารย์เคยประเมินว่าลูกชายมีแนวโน้มภาวะโรคซึมเศร้า ซึ่งตนเองก็พยายามใช้คำพูดรักษาลูกดูแลลูกตลอดมา แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก่อน

 ด้าน ร.ต.อ.นนทพันธ์ บุดดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า  ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันชันสูตรก็ได้นำร่างส่งนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อทำการยืนยันอัตลักษณ์บุคคลก่อนส่งศพให้กับญาติผู้เสียชีวิตนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาตามขั้นตอนต่อไป