อนุสรณ์ ลั่นรัฐบาลอยู่ครบเทอม ตอก ฝ่ายค้าน หยุดปั่น ชี้ความเห็นต่างในสภาฯเป็นเรื่องปกติ ไม่ถึงขั้นต้องยุบสภาฯ ภูมิใจไทย สุดทนออกโรงโต้ ธนดล อย่าเหมาเอาถูก-ผิดมาปนกันจนคลุมเครือทำสับสน ชี้ เจตนาชัดเจนจ้องทำลาย อนุทิน ให้เสียหายทั้งส่วนตัว-ทางการเมือง ขณะที่ เรืองไกรบุกร้อง ป.ป.ช. สอบยกเข่ง ปูอัด-วันนอร์-สุชาติ ปมจริยธรรม
เมื่อวันที่ 16 ก.พ.68 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในสภา ว่า ความเห็นต่างในสภาเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย ขอยืนยันว่ารัฐบาลยังคงทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลยังคงเดินหน้าผลักดันนโยบายที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนด้วยความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ แม้จะมีความเห็นต่างกันระหว่างพรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคแกนนำหลักรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่สิ่งสำคัญคือจนถึงวันนี้รัฐบาลยังสามารถบริหารและขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ พรรคเพื่อไทยยังคงเป็นพรรคแกนนำหลักในการขับเคลื่อนนโยบายการทำงาน ขอย้ำว่าการอภิปรายหรือการโหวตในสภาที่มีความเห็นต่างกันเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นความขัดแย้งรุนแรงภายในรัฐบาล จนไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ พรรคร่วมฝ่ายค้านที่พยายามปั่นกระแสว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพและต้องรับผิดชอบโดยการยุบสภานั้น ลองวางใจให้สงบ จะพบว่าความจริงวันนี้คือ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยังคงเดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ในทุกๆวัน
รัฐบาลอยู่ครบเทอม 4 ปีแน่นอน ฝ่ายค้านอย่าทึกทัก ปลุกใจตัวเองว่า ความเห็นต่างในสภาของพรรคร่วมรัฐบาลบางประเด็น เป็นวิกฤตที่เสียหายรุนแรง จนไม่สามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ เอาเวลาที่จะมาบอกให้รัฐบาลยุบสภา ไปคิดนโยบายมาแข่งขันกันในการเลือกตั้งครั้งหน้าน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า นายอนุสรณ์ กล่าว
ที่จ.ตาก นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกหนังมือเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหากรณี 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ลงชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 ว่า ตอนนี้น่าจะได้รับหนังสือเรียกกันหมดแล้ว แค่ติดอยู่ที่ความล่าช้าในการส่งไปรษณีย์ ดังนั้นก็เป็นสิ่งที่เราต้องรับมือกันต่อไป แต่ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของพวกเรา เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
วันนี้คุณอ้างเรื่อง ม.112 วันนี้หน้าคุณก็อ้างเรื่องอื่นมาทำลายพรรคการเมืองที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ก้าวหน้าเพิ่มขึ้น มันไม่มีกฎหมายห้ามในการเสนอแก้เรื่องดังกล่าว ก็ต้องยืนยันในการทำหน้าที่ของเรา
นายรังสิมันต์ ถามกลับว่า อะไรคือภารกิจเร่งด่วนของ ป.ป.ช. ซึ่งภารกิจเร่งด่วนของ ป.ป.ช.คือการเคลียร์ตัวเอง วันนี้ตัวเองยังเคลียร์ไม่ได้ และอาจะมีความผิดต่างๆ นาๆ เกี่ยวเรื่องทุจริต ดังนั้นมีความชอบธรรมอะไรมาทำหน้าที่ตรงนี้
ประทานโทษ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ท่านเป็นถึงประธาน ป.ป.ช. ตัวท่านเองจะอยู่แบบนี้เงียบๆ ต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวเรื่องมันก็เงียบไปเองหรือไม่ ผมคิดว่าต้องฝากพี่น้องสื่อมวลชนในการติดตาม ประธาน ป.ป.ช.หรือ ป.ป.ช.ท่านเป็นองค์อิสระ ใช้เงินภาษีของประชาชน เมื่อมีเรื่องที่เป็นข้อกล่าวหาต่างๆ มากมายไปสู่ท่าน ท่านมีหน้าที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชน ถ้าท่านไม่ทำหน้าที่ตรงนี้ ท่านต้องสังวรณ์ว่าท่านกินภาษีของประชาชนอยู่ ต้องตอบคำถาม นายรังสิมันต์กล่าว
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ทำให้เสียสมาธิหรือไม่ เพราะใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไม ป.ป.ช.ต้องรีบขนาดนี้ เรื่องชี้แจงเราพร้อมจะไปชี้แจงอยู่แล้ว เราในฐานะที่ต้องเตรียมชี้แจง ก็ยอมรับว่าเสียสมาธิในการเตรียมอภิปราย เพราะต้องมานั่งคิดเรื่องคดีความ รวมถึงบางคนก็ต้องถอนตัวจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเทศนี้ต้องการฝ่ายค้านที่มีคุณภาพในการตรวจสอบต่อไป
เมื่อถามว่าจะกระทบเสถียรภาพของฝ่านค้านหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อยากให้ประชาชนประเมิน พวกเราต้องโฟกัสเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โฟกัสเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ และคดีความอีกมันก็กินพลังไปมากแล้ว แต่ถ้าตัวเลขฝ่ายค้านลดลงก็ยอมรับว่ามีผลต่อการตรวจสอบอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่าจะกระทบไปถึงเลือกตั้งปี 2570 หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังไม่อยากประเมิน ยังไม่รู้ผลจะจบอย่างไร พร้อมยิ้ม และกล่าวว่า ตอนนี้ยังทำหน้าที่อยู่
ด้าน นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า จากกรณีที่นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ กำลังทำการตรวจสอบการนำที่ดิน ส.ป.ก.ไปออกโฉนดที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยระบุว่าพื้นที่ที่ตรวจสอบครอบคลุมสนามกอล์ฟนักการเมืองใหญ่ 1 สนาม ซึ่งนายธนดล ยืนยันว่าเป็นสนามกอล์ฟของนาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายอนุทิน ได้อธิบายว่าเป็นธุรกิจครอบครัว ไม่ใช่ของนายอนุทินเอง ซึ่งได้มาอย่างถูกต้อง
นายคารม กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญคือการที่นายธนดล กำลังทำอยู่นั้นคือการตรวจสอบว่าโฉนดที่ดินบริเวณดังกล่าวออกมาโดยชอบหรือไม่ เอา ส.ป.ก. มาออกใช่หรือไม่ ตัวนายธนดลเอง ยังยอมรับว่า แม้แต่ที่ดินที่ออกให้ประชาชนในนิคมสร้างตนเอง ประชาชนที่ถือครองมาแล้ว 5 ปี ก็สามารถออกโฉนดที่ดินได้
การทำหน้าที่ของนายธนดล ในการตรวจสอบที่ดิน ส.ป.ก. ดังกล่าวก็ทำไป แต่ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไปพูดให้คนสงสัยว่าที่ดินที่ตรวจสอบอยู่นั้น เป็นสนามกอล์ฟ ของนายอนุทิน ไม่รู้ลึกไปถึงด้วยซ้ำไปว่า สนามกอล์ฟดังกล่าวนั้นเป็นของธุรกิจครอบครัวนายอนุทิน และพูดเองว่าสนามกอล์ฟนั้น มีโฉนดถูกต้อง นายคารม กล่าว
นายคารม กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย ออกมาระบุว่าที่ดินที่ออกตาม น.ค.3 ของนิคมสร้างตนเองนั้น สามารถนำมาออกโฉนดที่ดินได้ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน นั่นคือโฉนดที่ดินที่ออกตามกระบวนการนี้ ออกมาโดยชอบ แต่การที่นายธนดล ออกมาพูดทั้งเรื่องถูกต้องและไม่ถูกต้องปะปนกันในคราวเดียวกัน และแถลงข่าวให้สังคมเข้าใจสับสนว่าที่ดินของสนามกอล์ฟของนายอนุทิน ว่าได้ที่ดินได้มาโดยชอบหรือไม่
นายธนดล ย่อมทราบดีว่าทำให้สังคมสับสน และมองนายอนุทิน ในทางเสียหาย แถมยังให้สัมภาษณ์ในรายการหนึ่งแพร่ไปทั่วประเทศด้วย เพราะฉะนั้นมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าเป็นการส่อไปในทางที่ทำให้นายอนุทินเสียหาย ซึ่งนายธนดล ย่อมเล็งเห็นได้ว่าทำให้นายอนุทินเสียหายทั้งทางส่วนตัว และการเมือง นายคารม กล่าว
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ทำการตรวจสอบนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ประธานรัฐสภา) นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 หรือไม่ โดยมีข้อเท็จจริงข้อกฎหมายเป็นตัวอย่างในคำร้องดังนี้ ข้อ 1. พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 28 (1) และมาตรา 87 บัญญัติว่า มาตรา 28 คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ (1) ไต่สวนและมีความเห็นกรณีมีการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ผู้ใดมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
มาตรา 87 เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนและมีความเห็นว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย การเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาตามวรรคหนึ่ง และการพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาให้เป็นไปตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาซึ่งต้องกำหนดให้ใช้ระบบไต่สวนและให้ดำเนินการโดยรวดเร็ว ให้นำความในมาตรา 81 และมาตรา 86 มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม การเสนอเรื่องต่อศาลฎีกาตามวรรคหนึ่ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีอำนาจมอบหมายให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ดำเนินการในศาลแทนได้ ข้อ 2. มาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 กำหนดไว้ดังนี้ ข้อ 17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ข้อ 3. ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 เรื่องด่วน ขออนุญาตสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจับกุมตัว นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในระหว่างสมัยประชุม ตามมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ข้อ 4. เอกสารแนบระเบียบวาระดังกล่าว แนบหนังสือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ ตช 0011.25/537 ลงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นหนังสือการแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 95/2568 (รายละเอียดปรากฏตามเอกสารแนบวาระการประชุมแล้ว) กรณี นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงอาจเข้าข่ายอันควรตรวจสอบว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 หรือไม่ ข้อ 5. ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ประธานรัฐสภา) กับ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เช่น เว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 หัวข้อ หนังสือ 'บิ๊กโจ๊ก' ว่อนเน็ต! ขอปธ.รัฐสภาฯ ทบทวนผลพิจารณาข้อกล่าวหา กก.ป.ป.ช.ทุจริต และวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 หัวข้อ ประเด็นต่อประเด็น บิ๊กโจ๊ก VS อ.วันนอร์ ใครเป็นต่อ-ใครพลาด!
ข้อ 6. ข้อเท็จจริงตามข่าวที่ปรากฏ กรณี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ประธานรัฐสภา) กับ นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ปัจจุบันเป็นประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ควรถือเป็นความปรากฏต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่ไม่ว่าจะมีการกล่าวหาหรือไม่ ตามมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แล้ว กรณี จึงมีเหตุอันควรขอให้ตรวจสอบบุคคลทั้งสามแล้วแต่กรณี ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ ข้อ 17 หรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวสรุปว่า เรื่องฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมฯ อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยตรง จึงไม่ควรไปร้องหน่วยงานอื่น