"โรม" นำคณะ กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด สะสางปัญหาความมั่นคงชายแดน ท่าข้ามฯ และแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์
เมื่อวันที่ 16กุมภาพันธ์ 2568.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียน อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก
โดยประธานคณะ กมธ.ความมั่นคงฯ และคณะ ได้ลงพื้นทีไปยัง บริเวณท่าข้าม 28 บ้านช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก เพื่อรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริง ข้อจำกัด และข้อท้าทาย เกี่ยวกับการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา ด้าน จ.ตาก เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ตลอดจนการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจ ในพื้นที่ดังกล่าว
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะ กมธ.ความมั่นคงฯ ระบุว่า ปัญหาท่าข้ามชายแดน อาจจะยังติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการค้ามนุษย์ กรณีการคัดแยกเหยื่อ กับผู้กระทำความผิดนั้น นายรังสิมันต์ โรม ระบุว่า เรื่องนี่ต้องทำเพื่อสาวไปให้ถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้กลับประเทศไปเลย มองว่า เหยื่อจากทุกชาติ ต้องเข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ของฝั่งไทยก่อน
นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ คณะ กมธ.ความมั่นคงฯ นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ปลัดจังหวัดตาก ส่วนราชการ และภาคเอกชนใน จ.ตาก ให้การต้อนรับ คณะ กมธ.ความมั่นคงฯ ทั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาท่าข้ามชายแดนของ จ.ตาก ที่มีความเชื่อมโยงกับประเด็นปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย - เมียนมา ด้าน จ.ตาก
ซึ่งการลงพื้นที่ได้มีการประชุม หารือถึงการเปิด-ปิด ท่าข้ามชายแดนใน จ.ตาก ที่มีมากถึง 59 ท่าข้าม เพื่อนำไปสู่การป้องกันไม่ให้แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ใช้ประโยชน์จากช่องทางท่าข้ามชายแดน ในการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเบื้องต้น มีแนวทางปฏิบัติคือ ไม่มีการเปิดท่าข้ามชายแดนเพิ่มอีก ขณะที่ท่าข้ามฯ เดิมที่มีอยู่ ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากทำผิดกฎหมาย จะถูกพิจารณาปิดท่าข้าม จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย