จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้นำคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็น นาทีที่มีรถปิคอัพพุ่งมาชนท้ายรเก๋งที่จอดเปิดท้ายอยู่บริเวณไหล่ทาง โดยมีผู้หญิงและเด็กชายยืนอยู่ท้ายรถ ซึ่งรถที่ชนนั้นเฉียดสองแม่ลูกไปเส้นยาแดงผ่าแปด พร้อมกับข้อความ ไหนลุงบอกหักหลบรถตัดหน้าไงครับถ้าลูกกับเมียผมเดินช้ากว่านี้สัก 5 วินาทีมันจะสูญเสียขนาดไหนครับ ดีน่ะที่ผมเจ็บคนเดียว เสี้ยววินาทีของชีวิตจริงๆ #บุญที่ทำมาทั้งชีวิตคงใช้หมดไปแล้วในวันนี้ ดูน้อยลง ซึ่งหลังจากที่โพสต์คลิปลงในโซเซียลได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นและแชร์โพสต์ดังกล่าวออกไปจำนวนมาก
ล่าสุด วันที่ 16 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งทราบชื่อนายสุปรีชา (ขอสงสนนามสกุล) อายุ 31 ปี จึงเดินทางไปพุดคุยด้วย เบื้องต้นนั้นนายสุปรีชา ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหลัง เนื่องจากนั่งอยู่ในรถคันที่ถูกชน และยังพบนางสาวสุวรรณี (ขอสงสนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภรรยาของนายสุปรีชา และเป็นคนที่ยืนอยู่ท้ายรถพร้อมกับลูกชายวัย 7 ปี ในวันที่เกิดเหตุ ซึ่งสองมีภรรยาได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงสายของวันที่ 15 ก.พ.68 ที่ผ่านมา ได้ขับรถเอนกประสงค์ ยี่ห้อ ฮอนด้า FREED สีขาว ทะเบียน กทม. เพื่อจะไปรับผ้าที่นำไปซักไว้ที่ร้านซักผ้าใกล้ๆบ้าน โดยมีภรรยาเป็นคนขับมาจอดที่หน้าร้าน ซึ่งจอดเลยเส้นสีขาวข้างถนนออกมา ไม่ได้จอดกินเลนส์บนถนน เมื่อไปถึงร้านภรรยากับลูกได้ลงไปรับตะกร้าผ้ามาขึ้นรถ ส่วนตนนั้นนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ในรถ ขณะภรรยากับลูกชายได้เปิดฝากระโปรงท้ายรถและนำตะกร้าเข้าไปเก็บช่วงจังหวะนั้นได้มีรถปิคอัพได้พุ่งมาชนบริเวณท้ายรถอย่างแรงพร้อมกับลากรถเก๋งของตนเองตกลงไปข้างทาง ซึ่งเฉียดภรรยากับลูกไปแค่นิดเดียว ส่วนตนเองที่นั่งอยู่ในรถนั้นก็กระเด็นตกลงไปนอนที่พื้นรถ ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลัง ซึ่งทั้งสองคนนั้นยืนยันว่าไม่ได้ยินเสียงเบรครถเลย คาดว่าน่าจะหลับใน หรือเกิดอาการวูบ
โดยหลังเกิดเหตุแล้วคนขับรถปิคอัพซึ่งเป็นชายสูงอายุ ได้บอกว่าได้หักหลบรถคันอื่น จึงทำให้รถเสียหลัก แต่ในช่วงนั้นไม่รู้ว่ามีรถคันที่ลุงบอกว่าหักหลบเลย แต่พอมาดูจากกล้องวงจรปิดของร้านก็พบว่ารถของลุงพุ่งมาหาเต็มโดยไม่ได้มีการเบรคหรือหักหลบรถอะไรเลย แต่โชคดีที่ภรรยากับลูกนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ลูกชายนั้นขวัญเสียมากนอนร้องตลอดเวลา ซึ่งอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้ไม่มีรถใช้ ขาดรายได้ และทำให้ธุรกิจในการซ่อมรถให้กับลูกค้าชะงักและเกิดความเสียหายกับลูกค้าด้วย ก็อยากจะฝากบอกให้คนขับรถปิกอัพรับผิดชอบ รวมทั้งอยากจะให้ระวังให้มากกว่านี้เพราะครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิตแต่ถ้ามีครั้งหน้าอาจจะไม่โชคดีอย่างนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการนัดพุดคุยกันอีกครั้งซึ่งต้องรอให้ผู้บาดเจ็บนั้นอาการดีขึ้นมาก่อน ซึ่งทราบว่าคนขับรถปิกอัพก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยด้วย
