วันที่ 16 ก.พ.68 พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.นครปฐม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังจากได้รับแจ้งจากหญิงสาวชาวไทยว่ามีชายต่างด้าวชาวเมียนมาบุกเข้ามาในห้องพักกลางดึกคืนก่อนโดยใช้กำลังปลุกปล้ำหวังจะข่มขีนและได้ขโมยโทรศัพท์มือถือพร้อมนาฬิกาไปด้วยที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ม.14 ตำบล ไร่ชิง อำเภอสามพราน จ้งหวัดนครปฐม จึงได้ให้จ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเเละเก็บรวบรวมพยานหลักฐานสืบหาตัวผู้ก่อเหตุดังกล่าว พร้อมส่งกำลังอีกชุดหนึ่งนำโดย พ.ต.ท.หญิง นิภากร สาระพันธ์ สว.ตม.จว.นครปฐม ,ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ สุ่มดี ,ร.ต.อ.เดชา อัคคละ และ ด.ต.วัชรชัย พามา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวนของ สภ.โพธิ์แก้ว จังหวัดนครปฐม ร่วมกันสืบสวนหาข้อมูลผู้กระทำความผิด โดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดจนทราบว่าผู้ก่อเหตุได้หลบหนีจากที่เกิดเหตุโดยใช้รถจักรยาน ปั่นเข้าไปในซอยโรงหล่อหมู่ 7 ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยคนร้ายหลบซ่อนตัวที่ห้องเช่าในซอยดังกล่าว
ทางชุดจับกุมจึงได้กระจายกำลังบุกเข้าทำการจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ ทราบชื่อต่อมาภายหลังคือนาย ขิน หม่อง วิน สัญชาติ เมียนมา อายุ 40 ปี พบของกลางโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นาฬิกาอีก 1 เรือน ตรงตามที่ผู้เสียหายได้แจ้งไว้ว่าถูกคนร้ายขโมยไปด้วย เจ้าหน้าที่ จึงได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนร้ายว่าได้บุกเข้าไปห้องของหญิงสาวชาวไทยเพื่อหวังจะข่มขึนจริงหรือไม่ โดยนายขิน หม่อง วิน ยอมรับสารภาพแต่โดยดีว่า หญิงสาวชาวไทยสวย หุ่นดีหน้าตาดี เกิดอารมณ์ จึงบุกเข้าไปกลางดึกปลุกปล้ำหวังจะข่มขืนพร้อมกับหยิบฉวยเอาโทรศัพท์และนาฬิกาติดไม้ติดมือมาด้วย
ทางชุดจับกุมจึงได้นำตัวคนร้ายรายนี้มาพบกับผู้เสียหายเพื่อให้ผู้เสียหายดูว่าเป็นคนที่พยายามจะข่มขืนหรือไม่ ซึ่งหญิงสาวชาวไทยจำได้อย่างแม่นยำว่าใช่คนนี้ไม่ผิดตัวแน่นอน
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ ถึงการ กระทำความผิดว่า ”พยายามข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้และลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม“ และนำตัวคนร้ายส่ง ให้พนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์แก้ว เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป