เมื่อวันที่ 15 ก.พ.68 ที่วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ประธานเปิดงานประกวด และแข่งขันบุญกลองยาววังน้ำเย็นมหาสารคาม โดยมี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เปลี่ยนขำ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ คณะกลองยาว และประชาชนเข้าร่วมในพิธีเปิด

สำหรับการจัดงานประกวดและแข่งขันบุญกลองยาววังน้ำเย็นมหาสารคาม ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีการละเล่นกลองยาว และเฉลิมฉลองครบรอบ 160 ปี เมืองมหาสารคาม และ สมโภชในโอกาสเจริญมงคลอายุ 46 ปี พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ. (สุริยันต์ โฆสปญฺโญ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง ประธานสงฆ์วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) พร้อมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ประเพณีการละเล่นสำคัญของชาวมหาสารคาม คือ กลองยาว ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย โดยการแข่งขันประกอบด้วย กลองยาวแบบดั้งเดิม จำนวน 11 ทีม กลองยาว แบบประยุกต์และดั้งเดิม 11 ทีม และแข่งขันเส็งกลองยาว จำนวน 44 ทีม 

พ.ต.อ.สุรศักดิ์ เปลี่ยนขำ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม กล่าวว่า คณะญาติธรรมและศิษยานุศิษย์ ได้พร้อมใจกันจัดแข่งขันกลองยาวแบบดั้งเดิม กลองยาวประยุกต์ และเส็งกลองยาว เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณี ฉลองในโอกาสครบรอบการก่อตั้ง จ.มหาสารคาม 160 ปี และเป็นกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองงานมุทิตาสักการะอายุวัฒนะมงคล 46 ปี พระวชิรญาณวิศิษฏ์ วิ.(หลวงพ่อเจ้าคุณสุริยันต์ โฆสปัญโญ) และจังหวัดมหาสารคามเป็นแดนดินถิ่นกลองยาว ซึ่งมีทั้งช่างทำกลองยาว มีทั้งนักดนตรีกลองยาว และคณะกลองยาวเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น ส่วนราชการในจังหวัดมหาสารคาม ได้มีการจัดงานกลองยาวระดับอำเภอและระดับจังหวัดมาหลายครั้ง จนทำให้จังหวัดมีชื่อเสียงเรื่องกลองยาว ไปทั่วประเทศ และในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสอันสำคัญ ที่ญาติธรรมและศิษยานุศิษย์จะได้จัดงานแข่งขันกลองยาว ดังกล่าวให้ยิ่งใหญ่ เพื่ออนุรักษ์ส่งเสริมรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่นกลองยาวและเพื่อสืบสานความรักสามัคคีในประเพณีการละเล่นกลองยาวของชาวอีสานให้สืบไป 

สำหรับผลการแข่งขัน รางวัลชนะเลิศ กลองยาวแบบดั้งเดิม ได้แก่ คณะโฮมสังวาทลูกนักปราชญ์สายป่า รองอันดับ 1 ได้แก่ คณะน้องใหม่ขวัญใจอุดร รองอันดับ 2 ได้แก่ คณะสังคีตอีสาน รองอันดับ 3 ได้แก่ คณะเบิ่งแงงอีสาน ,กลองยาวแบบประยุกต์ ชนะเลิศ ได้แก่ จอกขวางคำ รองอันดับ 1 ได้แก่ คณะโฮมสังวาทลูกนักปราชญ์สายป่า รองอันดับ 2 ได้แก่ คณะสังคีตอีสาน รองอันดับ 3 ได้แก่ คณะเบิ่งแงงอีสาน โดยรางวัลชนะเลิศรับเงินรางวัลประเภทละ 100,000 บาท รองอันดับ 1 เงินรางวัล 70,000 บาท รองอันดับ 2 เงินรางวัล 50,000 บาท รองอันดับ 3 เงินรางวัล 20,000 บาท เงินสนับสนุนค่าเดินทางทีมละ 15,000 บาท ,ส่วนรางวัลชนะเลิศ เส็งกลองยาว ได้แก่ ทีมโฮมสังวาทนักปราชญ์สายป่าคนอีสาน รับเงินรางวัล 20,000 บาท รองอันดับ 1 ทีม ได้แก่ เจ้าพ่อขามนคร รับเงินรางวัล 15,000 บาท รองอันดับ 2 ทีม ได้แก่ ดินดำกังวานศิลป์ รับเงินรางวัล 10,000 บาท รางวัลชมเชย ได้แก่ ทีมศิษย์เจ้าพ่อสร้างหลวง รับเงินรางวัล 5,000 บาท เงินสนับสนุนค่าเดินทางทีมละ 1,500 บาท นอกจากนี้ ยังมีรางวัล ขวัญใจกลองยาวสาวงานถือป้าย ชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ คณะน้องใหม่ขวัญใจอุดร รองอันดับ 1 ได้แก่ คณะมนต์เมืองสารคาม รองอันดับ 2 ได้แก่ คณะสังคีตอีสาน และรองอันดับ 3 ได้แก่ คณะน้องใหม่ขวัญใจโนนละคร เงินรางวัลทั้งสิ้นรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท