“คารม“ เห็นใจ 44  สส. อดีตพรรคก้าวไกล  ที่ถูก ป.ป.ช. เรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา   กรณีร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112  ปลง สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม    ไม่ขอซ้ำเติมใคร   แม้ตอนนั้นถูกกระทำแบบขาดสติ ด่าแบบเสียหาย”  

กทม. วันนี้  ( 15 ก.พ.)   นายคารม  พลพรกลาง อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่  อดีต สส. พรรคก้าวไกล   ให้สัมภาษณ์ว่าจากติดตามจากข่าวทราบว่าตอนนี้  คณะกรรมการ ป.ป.ช.  ได้มีหนังสือ ไปยังทั้งอดีต สส. พรรคก้าวไกล  และที่เป็น สส. พรรคประชาชน  ที่ได้ร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา  112   ว่า ตนเองไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้น  เพราะว่าตนเองถูกกันไม่ให้ร่วมกิจกรรมของพรรคก้าวไกลตั้งแต่วันแรก  ที่ตนย้ายเข้าพรรคก้าวไกลแล้ว    แต่ถ้าได้มีส่วนร่วม   ก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  แน่นอน 

“แม้คนธรรมดายังมีประมวลกฎหมายอาญามาตรา  326 และ328 คุ้มครอง  ซึ่งมาตรา 112 นั้น    เป็นกฎหมายป้องกันการกัดเซาะบ่อนทำลายสถาบันกษัตริย์ ด้วยการวิพากวิจารณ์   ทั้งทางตรงและทางอ้อม  เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ที่มีความสำคัญยิ่งต่อบ้านเมือง เป็นสถาบันที่ทำให้บ้านเมือง มีหลัก  ทำให้บ้านเมืองมั่นคงแข็งแรง“นายคารม  กล่าว

นายคารม กล่าวว่า ตนไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่  สส.ลงชื่อจะผิดหรือถูก  และจะมีความรุนแรงขนาดไหน   เพราะมีองค์กรที่จะตัดสินอยู่แล้ว  และจะไม่ไปซ้ำเติมเพื่อน สส. เหล่านี้    แม้ว่าจะทำกับตนเองไว้เยอะมากในช่วงนั้น    แต่โดยหลักการแม้ สส. ซึ่งเป็นคนออกกฎหมาย  และเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ   มีอำนาจออกกฎหมาย มีอำนาจแก้ไขกฎหมายก็ตาม   แต่บางอย่างแม้มีอำนาจก็อาจทำไม่ได้   ไม่อย่างนั้น หากมี สส. บางคน บางพรรค เสนอให้ประเทศไทย    เป็นหลายรัฐ  ไม่ใช่ราชอาณาจักรอันหนึ่งเดียวกัน    ก็ใช่ว่าจะทำได้  เช่นเดียวกับทำไมแก้รัฐธรรมนูญ   จึงห้ามแก้หมวด  1  นี่คืออีกเหตุผลว่าทำไมพรรคภูมิใจไทย  จึงเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ    จึงต้องมีการถามประชาชนหรือทำประชามติก่อน    ซึ่งตามหลักการคือประชาชนเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญ  เพราะพรรคไม่อยากเสี่ยง   เรื่องนี้คล้ายกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา  112     เมื่อบางพรรคไม่อยากเสี่ยง ไม่เห็นด้วย  จึงเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ถ้าใครอยากเสี่ยง ก็อาจเป็นเหมือน  สส. ของบางพรรคที่ได้ลงชื่อแก้ไข   ประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  112     ซึ่งวันนี้ผลมันก็ออกมาแล้ว  อย่างที่เป็นข่าวว่า ป.ป.ช. เริ่มเชิญไปรับข้อกล่าวหาแล้ว


”ความจริง ผมเป็นพยานคนหนึ่งที่ ป.ป.ช. เชิญไปให้ถ้อยคำในฐานะพยานที่ใกล้ชิดเหตุการณ์     ผมก็ได้ไปให้การไปตามความจริง  ที่ผมรับรู้มา โดยอุปนิสัยผมไม่เคยข้ามคนล้ม    แต่ตอนทึ่ผมล้ม  เหยียบผมจมธรณีเลยทุกคน     เพราะฉะนั้น   ก็ขอพูดความจริงว่าวันพระไม่มีหนเดียว  สำหรับเพื่อนเก่าที่จะให้ผมไปเป็นพยานช่วยนั้น    ผมยินดีนะครับ  เพื่อนก็คือเพื่อน แต่ผมจะพูดตามจริง เท่านั้น  คนเป็นนักฎหมาย  ก่อนจะลงชื่อ  ต้องคิดก่อน” นายคารม กล่าว