วันที่ 14 ก.พ. 68 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว. อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์เหตุสภาล่ม ที่มองกันว่าเป็นเกมการเมืองและเป็นความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่าความกังวลว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ไม่คิดไปไกล และคิดว่าเป็นความกังวลของสมาชิกแต่ละคนจริงๆ เพราะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเคยยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยศาลมีคำวินิจฉัยว่าหากจะแก้มาตรา 256 นี้ต้องไปทำประชามติมาก่อน เมื่อประธานบรรจุเข้าสู่วาระหลายคนไปทำหน้าที่เซ็นเข้าร่วมประชุม แต่เห็นว่าวาระมีปัญหา หากไปร่วมพิจารณา จะเกิดปัญหาได้จึงไม่เข้าร่วมพิจารณา เป็นเหตุให้องค์ประชุมไม่ครบ โดยพรรคร่วมฯทุกพรรค รวมถึงพรรคเพื่อไทย เซ็นชื่อเข้าร่วม แต่ไม่พิจารณา

“แต่สิ่งสำคัญกว่าองค์ประชุมครบหรือไม่ครบ คือสิ่งที่กำลังจะทำสุ่มเสี่ยงจะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ และคิดว่าพรรครวมรัฐบาลทุกพรรค เซ็นชื่อมาประชุม แต่ไม่เข้าร่วมพิจารณา” นายเอกนัฏ กล่าว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้เหมือนเป็นข้อตกลงตั้งแต่แรกจากรัฐบาล นายเอกนัฏ กล่าวว่า ข้อตกลงตั้งแต่ร่วมรัฐบาล เราชัดเจนและพูดเสมอว่าพรรครทสช. และพรรคร่วมฯหลายพรรค ไม่เคยหาเสียงว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ แต่เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างพรรคร่วมฯว่าพรรคเพื่อไทยต้องการแก้รัฐธรรมนูญ เราขอให้ไม่แตะหมวด1หมวด2 กับสิ่งที่ไปกระทบกับการป้องปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และเพื่อไทยยืนยันทำตามสัญญาว่าการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ว่าด้วยวิธีใดจะไม่แตะหมวด1หมวด2 แล้วไม่กระทบกับมาตรฐานการปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ รทสช.ไม่ขัดข้อง แก้โดยวิธีใดต้องทำให้ถูกกฎหมาย คิดว่าพรรคเพื่อไทยเข้าใจเรื่องนี้ดี และจากการพูดคุยกันทุกพรรคร่วมฯเห็นว่าจะแก้ต้องทำให้ถูกกฎหมาย สิ่งที่เป็นห่วงไม่ใช่แก้ไม่แก้ แต่กระบวนการแก้ไขถูกต้องตามกฏหมายหรือไม่  การถามศาลไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมาแล้ว ก็ต้องทำตามศาล

เมื่อถามว่า หากศาลรัฐธรรมนูญให้ความชัดเจนว่าสามารถเดินหน้าแก้ไขได้ พรรครทสช.พร้อมเดินหน้าเต็มที่แก้ไขตามข้อตกลงด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า พูดว่าเต็มที่จะเข้าใจผิดว่าไปแก้โดยไม่สนใจอะไร ซึ่งเราจะไม่แตะหมวด1หมวด2  

เมื่อถามย้ำว่า จะทำตามข้อตกลงไม่งอแง ใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ ยิ้มและกล่าวว่า ไม่งอแงอยู่แล้ว พรรค รทสช.ประกาศว่าจะทำอะไรจะทำตามสัญญาทุกเรื่อง ทุกอย่างเปิดเผย เราตรงไปตรงมา อะไรที่เป็นประโยชน์เราพร้อมร่วมทำอยู่แล้ว แม้ตอนหาเสียงเราจะไม่เคยโฆษณาเรื่องนี้ไว้และจะให้ความสำคัญเรื่องอื่น ซึ่งวันนี้ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน และตนรับภารกิจหนักอยู่และไม่ใช่งานง่ายที่จะปฏิรูปเรื่องพลังงานเพื่อลดราคาน้ำมันและราคาไฟฟ้า รวมถึงการปฏิรูประบบอุตสาหกรรม ที่จะกวาดล้างโรงงานเถื่อนลักลอบนำกากอุตสาหกรรมมาทิ้ง ขายของด้อยคุณภาพ ทั้งหมดนี้งานเยอะอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า แสดงว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่วาระเร่งด่วนใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ก็แล้วแต่การตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำว่าเรื่องนี้เราไม่เคยหาเสียง ถามว่าให้ความสำคัญไหมก็คงไม่ใช่ แต่หากพรรคร่วมฯต้องการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยที่ไม่ขัดกับเงื่อนไขที่ประกาศไว้เราก็ไม่ขัดข้อง 

เมื่อถามย้ำว่า พรรคร่วมรัฐบาล เห็นความจริงใจของพรรคเพื่อไทยเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในการผลักดันเรื่องนี้มากแค่ไหน นายเอกนัฏ กล่าวว่า เขาพยายาม แต่ติดตรงที่ว่าต้องทำตามกระบวนการ ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีปัญหา จนกระทั่งประธานบรรจุวาระ สมาชิกต้องเข้าร่วมประชุม ส่วนตัวคิดว่าถ้าไม่บรรจุแต่แรกก็คงไม่มีปัญหา ส่วนที่พรรคเพื่อไทยยอมรับความเห็นต่างของพรรคร่วมฯถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะทุกคนทำตามสัญญา เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญตามที่ประกาศ และพูดชัดไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 ถือเป็นเรื่องที่ดี และรทสช.ชัดเจนไม่สังฆกรรมกับการแก้มาตรา 112 หรือล้มล้างระบบการปกครอง รวมถึงหมวด 1 และหมวด 2 หรือแก้แบบไม่มีหลักประกันว่าจะไม่ไปแตะหมวด 1 และหมวด 2 จึงขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ชัดเจนตรงนี้เช่นกัน ส่วนเรื่องอื่นเราไม่ติดใจ