วันที่ 14 ก.พ.2568 เวลา 08.30 น.ที่รัฐสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ยกเว้นพรรคภูมิใจไทย ก่อนประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 วันที่ 2 เห็นว่า การประชุมวันนี้เจตนาของฝ่ายต่าง ๆ ที่ไม่เห็นด้วยจะต้องการจะล้มร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งน่าเสียดาย เพราะถ้าหากร่างรัฐธรรมนูญทั้งสองฉบับล้มไป ก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่ จึงคิดว่าการพิจารณาในวันนี้ไม่ควรจะนำไปสู่การลงมติ อยากให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ยังคงค้างอยู่ในสภา และหาทางไปดำเนินการ คือให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เมื่อถามว่าวันนี้จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า หากนำไปสู่การพิจารณาก็ต้องมีการลงมติ ลงมติก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าท้ายที่สุดก็จะต้องตกไป และจะต้องรออีกยาว จึงคิดว่าดีที่สุดคือชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน
เมื่อถามว่าในส่วนพรรคประชาชนที่ต้องการเดินหน้า แต่พรรคภูมิใจไทยไม่ต้องการนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องคุยกับพรรคประชาชนให้รู้เรื่องว่าท้ายที่สุดหากเดินไปแบบนี้ก็จะตก หากชะลอไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือไม่ ซึ่งจะให้ประธานวิปรัฐบาลเป็นคนไปพูดคุย
เมื่อถามว่าวันนี้การประชุมจะล่มอีกหรือไม่เพราะยังมีความเห็นต่าง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า จะไปเป็นองค์ประชุม และจะพูดคุยให้ทุกฝ่ายเห็นว่าท้ายที่สุดหากพิจารณาแบบนี้ก็จะตกไป
เมื่อถามว่าหากสว.ยื่นไปให้รัฐศาลรัฐธรรมนูญตีความ พรรคร่วมรัฐบาล มีแนวคิดที่จะร่างคำถามส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกันหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ก็กำลังคิดอยู่ อาจจะเสนอเป็นญัตติขึ้นมา ที่แตกต่างไปจากของนายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา เพื่อให้เป็นญาติและให้รัฐสภาพิจารณา เป็นญัตติด่วนซึ่งกำลังคิดอยู่
เมื่อถามว่าศาลจะรับคำร้องอีกหรือไม่เพราะเคยวินิจฉัยมาแล้ว นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นปัญหาที่เห็นเหมือนกันหรือต่างกันได้แต่ที่เห็นกันอยู่ขณะนี้เพราะต่างจากสถานการณ์คราวที่แล้ว คราวที่แล้ว ประธานสภาไม่ได้บรรจุเข้าระเบียบวาระ แต่ครั้งนี้ประธานได้บรรจุเข้าระเบียบวาระเรียบร้อย เมื่อบรรจุก็มีความขัดแย้งเกิดขึ้นแล้ว คิดว่าศาลควรจะต้องวินิจฉัย หากตราบใดยังไม่เคลียร์ว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง ตอนไหนก็จะวนกลับมาเหมือนเดิมจึงคิดว่าอยากให้ปัญหานี้จบก่อน