วันที่ 13 ก.พ.68 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ และ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. ขกท. โดย พล.ต.ธีรนันท์ นันทขว้าง ผบ.ขกท., ขกท.ศปก.นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก. พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ. พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส. ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 สืบสวนจับกุม ทีมลำเลียงยาเสพติดทีมโกดังยาเสพติด “เสือเปรม ปชน.”
พล.ต.ท.สุรพล กล่าวถึงพฤติการณ์ในการจับกุมว่า สืบเนื่องจาก จนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดเครือข่ายของนายอภิวิชญ์ (สงวนนามสกุล) หรืออาร์ต ต่ำเอี่ยว จำนวนหลายคดี และจากการขยายผลการจับกุมทำให้ทราบว่ามี นายปองเทพหรือเปรม (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี จะนำยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ภายในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 2กน 4980 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์มาสด้า 3 สีแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 3กล 7975 กรุงเทพมหานคร เพื่อรอส่งมอบให้กับกลุ่มลูกค้า โดยนายปองเทพหรือเปรมฯ จะนำรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว และรถยนต์มาสด้า สีแดง ที่มียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ มาจอดรวมไว้กับรถของประชาชนทั่วไป บริเวณลานจอดรถภายในอพาร์ทเมนท์ ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จว.นนทบุรี จากนั้นวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 09.30 น. จนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. เดินทางมาตรวจสอบบริเวณลานจอดรถภายในอพาร์ทเมนท์ พบว่ารถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว ลักษณะรถมีน้ำหนักมากจึงได้ส่องดูภายในรถพบว่ามีกระสอบสีขาวจำนวนหลายกระสอบ และพบว่ามีก้อนสีทองลักษณะเหมือนยาไอซ์วางอยู่ภายในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว และพบว่ามีกระสอบสีขาว วางอยู่บริเวณเบาะหลังภายในรถยนต์มาสด้า สีแดง จึงเชื่อว่านายปองเทพหรือเปรม ได้นำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อนไว้
จากนั้น จนท.ตร. และทหาร ขกท.ศปก.นสศ. จึงได้กระจายกำลังกันอยู่บริเวณโดยรอบภายในอพาร์ทเมนท์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. พบว่านายปองเทพ หรือ เปรม ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ติดแผ่นป้ายทะเบียน 4ขช 3449 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดบริเวณข้างรถยนต์มาสด้า สีแดง และได้เดินไปยังรถยนต์ยี่ห้อซีวิค สีขาว หมายเลขทะเบียน 6กล 9569 กรุงเทพมหานคร จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและทหาร และขอความร่วมมือในการตรวจค้นตัวและยานพาหนะ ผลการตรวจภายในรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาว พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 217 กิโลกรัม และตรวจค้นภายในรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า สีแดง พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 310,000 เม็ดและอาวุธปืนพก จำนวน 3 กระบอก จึงได้ควบคุมตัวนายปองเทพฯ และนำตัวนายปองเทพ เข้าตรวจค้นห้องพัก หมายเลข B401 พบยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ประมาณ 250,000 เม็ด และยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ยาอี ประมาณ 3,163 เม็ด และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักประมาณ 88 กรัม พร้อมอุปกรณ์บรรจุภัณฑ์และลังกระดาษเพื่อแบ่งยาเสพติดและนำส่งให้กับลูกค้าและ อาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก
พล.ต.ท.สุรพล กล่าวสรุปผลการ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 218 กิโลกรัม,ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 560,000 เม็ด,ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาอี) ประมาณ 3,163 เม็ด,วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักประมาณ 88 กรัม,อาวุธปืนพก จำนวน 5 กระบอก
นอกจากนี้จับกุม นายปองเทพหรือเปรม (สงวนนามสกุล) ทำหน้าที่รับยาเสพติดจากกลุ่มผู้ลำเลียงมาพักไว้เพื่อรอจำหน่าย ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลติดตามกลุ่มผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี และตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำผิด จำนวน 4 คัน
ประกอบด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อฮอนด้าซีอาร์วี สีขาว ทะเบียน 2กน 4980 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน,รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมาสด้า 3 สีแดง ทะเบียน 3กล 7975 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน,รถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ เอ็กซแพนเดอร์ สีขาว ทะเบียน 4ขช 3449 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คันและรถยนต์เก๋ง 5 ประตู ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน 6กล 9569 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน”
เหตุเกิดที่ บริเวณลานจอดรถภายในอพาร์ทเมนท์ ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ต่อเนื่องห้องพักเลขที่ B401 ปิยรมณ์ อพาร์ทเม้น ซ.งามวงศ์วาน 23 แยก 15 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี
จากการตรวจสอบข้อมูลหมายจับของนายปองเทพ หรือเปรม คล้ายอุดม พบมีหมายจับจำนวน 2 หมายดังนี้ 1.หมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 22/2567 ลงวันที่ 17 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันปล้นทรัพย์ และใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำความผิดหรือเพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และ2 หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 1331/2567 ลงวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน มีวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันได้กระทำโดยมีอาวุธ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันสมควรในการจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 50,000,000 บาท และได้ตรวจยึดทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 5,000,000 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 ในนโยบายที่ 8 รัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและจำหน่ายด้วยการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้นควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด การปราบปรามและการยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด และตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ในการมอบนโยบายเมื่อวันที่ 4 พ.ย.67 ให้เร่งรัดปราบปราบปรามอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะยาเสพติด และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีดังกล่าว