เมื่อวันที่ 13 ก.พ.68 พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือ 2568ที่ ท่าเรือแหลมเทียนกลางท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมให้ สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโครงการจัดหาเรือซีเกทใหม่สองลำในงบประมาณปี 2569 และความคืบหน้า การแก้ปัญหา เรือดำน้ำจีน
ในเรื่อง ความคืบหน้าในการจัดซื้อเรือฟริเกต นั้น พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า อยู่ในขั้นตอนการของบประมาณ ในส่วนของกองทัพเรือ ได้มีการเสนอเอกสารเป็นทางการไปยังบริษัทต่างๆ ใช้เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการเฉพาะ (RFi) ให้บริษัทต่างๆ เข้ามาให้ข้อมูลกับเรา ว่าสามารถทำในสิ่งที่เราอยากได้หรือไม่ เช่น แบบเรือ ตรงความต้องการหรือไม่ รวมถึงการสร้างเรือ เราอยากให้อุตสาหกรรมภายในประเทศมีส่วนร่วมมากขึ้น และส่วนสุดท้ายคือ นโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เกิดการซื้อยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณสูง และต้องมีผลตอบแทนกลับมาในประเทศมากขึ้น หรือ Offset policy ตามนโยบายรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของเรือดำน้ำที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคณะรัฐมนตรี จะมีขั้นตอนผลักดันอย่างไรบ้าง พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ในส่วนของกองทัพเรือมีความชัดเจนว่าต้องการทำให้สัญญาจบ โดยการเสนอขอเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปที่ ครม. แต่อำนาจการเปลี่ยนแปลงเครื่องยนต์นั้น "ถ้าอยู่ในกองทัพเรือ ก็จบไปแล้ว แต่อำนาจไม่ได้อยู่ที่กองทัพเรือ จึงต้องรอ ครม.ในการตัดสิน"
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม เพิ่งมารับตำแหน่งพร้อมๆกับผม ท่านก็ต้องศึกษาและมาขอข้อมูลเพิ่มเติมในบางเรื่อง และเตรียมข้อมูลรวมถึงรอคำตอบจากต่างประเทศว่า ข้อมูลนั้นจะเป็นอย่างไร ถ้าได้ข้อมูลที่ support และสนับสนุนก็อยู่ที่รัฐมนตรีที่จะตัดสินใจว่าจะนำเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อใด
เมื่อถามว่า ทร. ยืนยันจะผลักดันและเดินหน้านำเรือเข้าประจำการให้ได้ใช่หรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ขอให้คำว่า สัญญาได้มีการดำเนินการไปแล้ว และกองทัพเรือได้ตรวจสอบแล้วว่า จะทำอย่างไรให้สัญญาจบ โดยต้องคำนึงว่าเครื่องยนต์ที่จะเปลี่ยนมีขีดความสามารถหรือไม่ ในระดับกองทัพเรือได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ขณะนี้ก็ต้องมาดูว่าในระดับ ครม. จะมีความเห็นด้วยหรือไม่